Resident Evil: Afterlife - ผีชีวะ 4 มหากาพย์สงครามไวรัส สุดมันส์ ขั้นอมตะ!!
กลับมาอีกครั้งกับภาคต่อของหนังแอ็คชั่น/ไซไฟเรื่องยิ่งใหญ่แห่งปี กลับมาคราวนี้เรียกว่าสร้างความตื่นเต้นอย่างมากให้กับเหล่าสาวก เพราะนอกเหนือจากจะได้ พอล ดับบลิวเอส แอนเดอร์สันกลับมานั่งแท่นผู้กำกับอีกครั้ง Resident Evil: Afterlife ยังถูกขึ้นป้ายว่า ถ่ายทำในระบบสามมิติที่ทันสมัยที่สุดในโลก ซึ่งใช้กล้องตัวเดียวกับที่ใช้ใน Avatar อีกด้วย! อยากรู้แล้วซิว่า Resident Evil: Afterlifeจะสุดยอดขนาดไหน? ถ้างั้นไปดูกันเลย...
ไอเดียที่ถูกต่อยอดมาจากหนังภาคก่อนๆ
ในสามภาคแรกของ Resident Evil มิล่า โจโววิช ที่รับบทเป็น อลิซ นักสู้ซอมบี้สาว ผู้ต้องต่อกรกับองค์กรอัมเบรลล่าที่ชั่วร้าย และเหล่าอสูรกายพันธุ์สยองที่ถูกพัฒนาด้วยที-ไวรัส ใน Resident Evil: Afterlife ซึ่งเป็นภาค 4 ได้ยกระดับหนังขึ้นไปอีกขั้น ด้วยฉากสตันท์ที่เหนือจินตนาการ เอฟเฟ็กต์ที่น่าทึ่งในระบบสามมิติ ซึ่ง เจเรมี่ย์ โบลท์ ผู้อำนวยการสร้างบอกว่า "ภาคนี้มีปืนมากมาย ผู้หญิงสวย สุนัขฉีกหัวได้ เอฟเฟ็คตระการตา แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการกลับมาของ มิล่า และเธอก็ทุ่มเทเต็มที่มากกว่าทุกภาค"
ผู้กำกับ พอล ดับบลิวเอส แอนเดอร์สัน กับความท้าทายครั้งใหม่
พอล ดับบลิวเอส แอนเดอร์สัน กลับมารับหน้าที่ผู้กำกับอีกครั้งใน Resident Evil: Afterlife หลังจากสองภาคที่ผ่านมาเขาเป็นเพียงแค่ผู้อำนวยการสร้างซึ่งเขาได้สร้างความท้าทายให้กับตัวเองในหนังภาคล่าสุด ด้วยการสร้างตำนานบทใหม่ของหนังด้วยเอฟเฟ็กต์ที่ยิ่งใหญ่ เต็มไปได้วยอสูรกายที่มีความท้าทายมากกว่าเดิม ที่สำคัญ Resident Evil: Afterlife เป็นหนังที่ถ่ายทำในระบบสามมิติที่ทันสมัยที่สุดในโลก ซึ่งใช้กล้องตัวเดียวกับที่ใช้ใน Avatar ซึ่งนี่ถือเป็นความใฝ่ฝันสูงสุดของ แอนเดอร์สันเพราะเขาอยากสร้างหนังสามมิติมานานแล้ว
เมื่อ อลิซ กลับมาเป็นมนุษย์!
สิ่งหนึ่งที่แตกต่างออกไปก็คือในหนังภาคนี้ก็คือ อลิซ ต้องพบกับความท้าทายใหม่ นั่นก็คือการกลับมาเป็นมนุษย์ของเธอ แต่ในขณะที่อลิซ กลับมาเป็นมนุษย์กลุ่มซอมบี้ก็มีวิวัฒนาการที่อันตรายมากขึ้น แต่เหนือไปกว่าความตื่นเต้นและฉากแอ็คชั่น Resident Evil: Afterlifeก็ยังมีเรื่องราวน่าประทับใจที่เชื่อมถึงคนดู เช่นการพูดถึงบริษัทชั่วร้ายที่เป็นผู้บงการเรื่องราวทั้งหมด หรือการกล่าวถึงจิตวิญญาณของมนุษย์ ดวงไฟแห่งความหวัง ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้ อลิซ เดินต่อไปข้างหน้าเรื่อยๆแม้จะต้องเธอเดินท่องอยู่ในทะเลทรายคนเดียวแบบเดียวกับที่เราเห็นในหนังภาคที่แล้ว
มิล่า โจโววิช กลับมารับบท อลิซ
.jpg )
ถึงแม้ว่า Resident Evil: Afterlife จะมีหลายสิ่งหลายอย่างแตกต่างออกไป แต่สิ่งหนึ่งที่ยังเหมือนเดิมนั้นก็คือ อลิซ ซึ่งรับบทโดยมิล่า โจโววิช หลังจากผ่านไป 8 ปีและหนัง 4 ภาค โจโววิชรู้จัก อลิซ ดีกว่าทุกคน แอนเดอร์สัน เล่าว่า "เมื่อผมคุยกับเธอในตัวตนของ อลิซ ผมอ้างอิงไปถึง คลินท์ อีสท์วู้ด จากเรื่อง Dirty Harry หรือนักแสดงอย่าง ชาร์ล บรอนสัน และ สตีฟ แม็คควีนพวกเขาเป็นสัญลักษณ์ของคนแกร่ง มีนักแสดงชายหลายคนที่อยากเป็น คลินท์ อีสท์วู้ด หรือ สตีฟ แม็คควีน แต่ไม่มีนักแสดงหญิงคนไหนที่ทำมันได้น่าเชื่อถือเท่ากับ มิล่า"
โจโววิช เป็นหนึ่งในนักแสดงหญิงเพียงไม่กี่คนที่สามารถเป็นหัวแรงหลักในหนังแอ็คชั่นได้ แอนเดอร์สัน พูดต่อไปว่า "ซีกอนี่ย์ วีเวอร์ ประสบความสำเร็จไป Alien ผมคิดว่ามันมีเหตุผลเดียวกันเธอเป็นนักแสดงหญิงที่มีความสามารถและทำให้คุณเชื่อในโลกของนิยายวิทยาศาสตร์ ที่มีสัตว์ประหลาดอย่างเอเลี่ยนหรือว่าซอมบี้ มิล่า มอบสิ่งนั้นให้กับพวกเรา"
โจโววิช เล่าว่าเธอรู้สึกผูกพันธ์กับตัวละครนี้มาหลายปีแล้ว "ฉันรู้สึกตื่นเต้นว่ากับการผจญภัยครั้งใหม่ของเธอ อลิซ กลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตของฉัน เธอกลายเป็นส่วนหนึ่งของตัวฉัน"โดยเธอยังเล่าถึงพัฒนาการของตัวละครนี้ว่า "อลิซ เริ่มด้วยการเป็นตัวละครบริสุทธิ์ที่จำอะไรไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง จากนั้นถึงมารู้ใจว่าเธอมส่วนรับผิดชอบของการแพร่กระจายของที-ไวรัสเธอจึงรู้สึกผิดตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา"
ใน Resident Evil: Afterlife โจโววิช พบกับความท้าทายใหม่ๆ ด้วยการรับบทเป็นตัวโคลนทั้งหมด เธอเล่าถึงความตื่นเต้นในการแสดงครั้งนี้ว่า "ฉันต้องรับบทเป็น อลิซในรูปแบบที่หลากหลาย ซึ่งแต่ละตัวก็มีบุคลิกที่แตกต่างกันออกไป พวกเธอไม่ใช่ตัวละครที่สร้างขึ้นจากเอฟเฟ็กต์"
อาลี ลาร์เตอร์ ในบทของ แคลร์
.jpg )
Resident Evil: Afterlife ยังเป็นการกลับมาของผู้รอดชีวิตในภาคที่แล้ว ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ แคลร์ ที่รับบทโดย อาลี ลาร์เตอร์ โดยโจโววิช ก็รู้สึกผูกพันธ์กับนักแสดงสาวร่วมจอเหมือนกับที่อลิซ รู้สึกกับ แคลร์ "พวกเรากลายเป็นเพื่อนสนิทกัน อาลี นำเอาความสมจริงเข้ามาในบท ฉันรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ทำงานร่วมกับนักแสดงที่ทั้งแข็งแกร่ง ฉลาด และสวย และก็ทำให้ฉันต้องพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อเท่ากับการแสดงของเธอ"
ลาร์เตอร์ รู้สึกตื่นเต้นที่ แอนเดอร์สัน ตัดสินใจนำเธอกลับมาในภาคนี้ ซึ่งนี่คือบทที่สร้างชื่อให้กับเธอที่สุด และเธอยังตั้งหน้าตั้งตารอที่จะร่วมงานกับ โจโววิช อีกครั้ง "สิ่งที่พิเศษในแฟรนไชส์หนังเรื่องนี้ นั้นก็คือมันมีตัวละครหญิงที่แข็งแกร่งสองคน อลิซ และ แคลร์ เป็นนักสู้ทั้งคู่ พวกเธอมีจิตวิญญาณที่ไม่สามารถทำลายได้ พวกเธอพยายามทำทุกอย่างเพื่อเอาชีวิตรอด และยังดูแลซึ่งกันและกัน"
เวนท์เวิร์ท มิลเลอร์ รับบทเป็น คริส เรดฟิลด์
เหมือนกับนักแสดงทุกคน มิลเลอร์ ให้ความเคารพสาวกพันธุ์แท้ของแฟรนไชส์ "Resident Evil: Afterlife ทำเหมือนอย่างที่หนังภาคก่อนหน้าได้ทำ คือเข้าไปสำรวจโลกหลังหายนะอย่างเต็มที่ ไม่เพียงแต่คุณจะได้รับความสยองและความตื่นเต้น แต่คุณยังจะได้พบกับตัวละครที่คุณคุ้นเคย ไม่ใช่ว่าคุณอยากจะเข้าไปอยู่ในสถานการณ์เดียวกับ อลิซ, แคลร์ และ คริส แต่มันจะเป็นการผจญภัยที่น่าตื่นเต้น"
การที่หนังมีตัวละครนำเป็นผู้หญิงเป็นสิ่งที่ มิลเลอร์ รู้สึกชื่นชม เขาเล่าว่า "ผมคิดว่า มิล่า เป็นผู้หญิงสวยที่มีพรสวรรค์ในการแสดงหนังแอ็คชั่น แนวทางที่เธอตั้งท่า การถือดาบ การใช้อาวุธ ผมคิดว่าเธอมีเอกลักษณ์มาก การได้เห็นว่าเธอมีทั้งความสง่างามและฉลาด ถือเป็นสิ่งที่น่าทึ่งจริงๆ"
บอริส ค็อดโจ รับบทเป็น ลูเธอร์ เวส
.jpg )
หัวหน้ากลุ่มผู้รอดชีวิตที่ตั้งฐานที่มั่นภายในคุก เขาเป็นผู้นำโดยธรรมชาติ เป็นนักกีฬาเก่าที่รับบทเป็นผู้นำด้วยความจำเป็น เขามีความมั่นใจและมีระเบียบวินัย โดย บอริส ค็อดโจ ได้ให้สัญญากับผู้ชมว่าภาคนี้จะเป็นภาคที่ตื่นเต้นที่สุด "ซอมบี้มีวิวัฒนาการที่น่ากลัว มันมีความพิเศษ อย่างเจ้าตัวที่ชื่อว่า ดิ แอ๊กซ์ แมน ที่ทำให้คนตัวสูงอย่างผมกลายเป็นคนแคระไปเลย ผมคิดว่าคนดูจะต้องทึ่งไปกับเหล่าอสูรกายในภาคนี้ และมันยังมีเรื่องราวที่ทำให้คุณอยากติดตามไปจนจบ"
ชอว์น โรเบิร์ต รับบทเป็น อัลเบิร์ต เวสเกอร์
ตัวละครผู้ร้ายของเกมส์และหนังภาคนี้ก็คือ อัลเบิร์ต เวสเกอร์ ประธานบริษัท อัมเบรลล่า คอร์ป ผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมด ซึ่งภาคนี้ เวสเกอร์ ได้รับเชื้อที-ไวรัสจนทำให้เขาแข็งแกร่งชนิดที่ไม่มีใครทำลายได้ เมื่อ อลิซ รู้ว่า เวสเกอร์ ไร้เทียมทาน เธอจึงหาวิธีที่จะมาต่อสู้กับเขา ซึ่งนำไปสู่ฉากการต่อสู้สุดท้ายที่น่าทึ่งที่สุด
ระบบ 3D ที่ทันสมัยที่สุดในโลกของ Resident Evil: Afterlife
จากฐานทัพของ อัมเบรลล่า คอร์ป ในกรุงโตเกียว ไปจนถึงเมืองลอสแองเจลิสในเปลวเพลิง Resident Evil: Afterlife เต็มไปด้วยฉากแอ็คชั่นที่น่าตื่นตา และวิชวลเอฟเฟ็คที่น่าทึ่ง ทั้งหมดถูกถ่ายทอดด้วยเทคโนโลยีสามมิติที่ทันสมัยที่สุดในโลก ซึ่งใช้กล้องตัวเดียวกับที่ใช้ใน Avatar
แอนเดอร์สัน พูดถึงการนำระบบสามมิติเข้ามาใช้ว่า "เมื่อตอนที่ผมเขียนบท ผมรู้ว่ามันจะต้องเป็นหนังสามมิติแน่นอน