การเดินทางไปเที่ยวเพชรบุรีจะไปทางรถยนต์ หรือทางรถไฟก็สะดวกทั้งสิ้น แต่หากไปทางรถไฟ ซึ่งมีไปวันละหลายขบวน แต่เมื่อไปถึงเมืองเพชรบุรีแล้ว ต้องหารถพรรคพวกมารับไปเที่ยว หรือเที่ยวโดยรถสี่ล้อเล็กที่ชาวเมืองเรียกว่า "รถเล้ง" หรือไปเที่ยวกับรถไฟ ไปเช้า เย็นกลับ ไม่ทราบว่ายังจัดอยู่หรือเปล่า สนใจลองโทรถามดู ๐๒ ๒๒๕ ๖๙๖๔ ต่อ ๕๒๑๗ แต่ผมชอบขับรถไปเองสนุกกว่า เพชรบุรีอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพ ฯ มีสถานที่เที่ยวในตัวเมืองได้หลายแห่ง ของกิน อร่อย ๆ หากินได้แยะ รวมทั้งของฝากที่จะหิ้วกลับมาด้วย ขนมอร่อยที่ลือชื่อคือ ขนมหม้อแกง หากเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว มีเส้นทางไปได้ ๒ เส้นทางคือ
เส้นทางที่ ๑ ไปตามถนนเพชรเกษม หรือทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๔ ผ่านไปตั้งแต่บางแค นครปฐม ราชบุรี ปากท่อ เขาย้อย เพชรบุรี เส้นนี้ระยะทางประมาณ ๑๖๖ กม. ไกลพอ ๆ กับไปลพบุรี หากมีเวลาเส้นนี้เหมาะสำหรับเที่ยวกลับ เพราะได้แวะนครปฐม แหล่งของกินใหญ่ยามค่ำคือ ที่บริเวณด้านตะวันตกขององค์พระปฐม มากมายหลายสิบเจ้าเลยทีเดียว
เส้นทางที่ ๒ หากมาทางด่วนพระราม ๙ พอลงจากทางด่วนมาสู่ถนนพระราม ๒ แล้ววิ่งไปผ่านสมุทรสาคร สมุทรสงคราม ปากท่อ เส้นนี้หากเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ในวันกลับรถจะติดมากคือ ติดกันตั้งแต่เลี้ยวเข้าสาย ๓๕ (พระราม ๒) ที่บริเวณแยกวังมะนาว รถจะเริ่มติดมาจนยันทางด่วนนั่นแหละ จากปากท่อก็ทับกับเส้นทางที่มาจากราชบุรีคือ ถนนเพชรเกษมเส้นนี้ประมาณ ๑๒๑ กม. ใกล้กว่ามาก แต่ทำเวลาไม่ค่อยได้ ถ้าเป็นวันหยุด ยิ่งหยุดยาวก็ติดยาวดีนัก
จะไปเส้นทางที่ ๑ หรือที่ ๒ หากออกเช้ากะไปกินข้าวเช้าตามทาง ก็ขอแนะนำว่าไปกินข้าวแกงที่เขาย้อยดีที่สุด อร่อยสุด ๆ เช่นกัน ก่อนถึงทางแยกไปสถานีรถไฟเขาย้อย จะมีร้านข้าวแกงร้านใหญ่ ๆ อยู่หลายร้าน ร้านที่ผมชิมเขาประจำ และชิมมานานเลยสิบปี จนเขาขยายร้านใหญ่โต ขาไปจะอยู่ทางขวามือ ต้องไปกลับรถมาจากสี่แยก มีอาหารคงจะถึงร้อยอย่าง
เมื่อวิ่งมาถึงเขตเพชรบุรี ก่อนเข้าเมืองจะพบทางเลี้ยงเมืองทางขวา หากจะไปชะอำ หัวหิน ก็แยกขวาไปได้เลย แต่ถ้าจะเข้าเมืองก็ตรงไปจะชนกับสามเแยกศาลหลักเมือง ถ้าเลี้ยวขวาก็จะไปยังเขาวัง แต่หากขึ้นเขาวังทางนี้ต้องเดินขึ้นเขาไป แต่ถ้าจะขึ้นโดยรถรางไฟฟ้า หรือเคเบิลคาร์ถึงทางเลี่ยงเมืองให้เลี้ยวขวาไปนิดเดียว จะเห็นสถานีรถไฟฟ้าอยู่ทางซ้ายมือ ขึ้นรถไฟฟ้าไม่ต้องเดินขึ้นบันไดไปสู่เขาวัง
ตรงสามแยกศาลหลักเมือง ที่เลี้ยวขวามาเขาวัง หากเลี้ยวซ้ายไปตามถนน ๓๑๗๓ อีกประมาณ ๓ กม. เศษ ๆ คือ ทางลงถ้ำเขาหลวง ซึ่งเดี๋ยวนี้สะดวกมาก ถนนคอนกรีตอย่างดี เมื่อไปถึงลานจอดรถ ทางซ้ายมีทางลงสู่ถ้ำจันทน์ เป็นสำนักสงฆ์วิปัสสนา ทางขวามีที่ขายอาหารลิง เพราะลิงแยะ และมีห้องสุขาที่สะอาด แต่ไม่สากล เก็บค่าบริการคนละ ๒ บาท สุดทางของถนนก่อนลงถ้ำคือ ศาลาที่จำลองแบบมาจาก "ศาลาสวนหลวง ร.๙"
ทางซ้ายของศาลาสวนหลวง ร.๙ มีบันไดคอนกรีตเดินไปสู่ปากน้ำ พอถึงปากถ้ำต้องเดินลงบันไดที่ค่อนข้างชัน เดินลงไปอีก ๙๙ ขั้น ซึ่งผมต้องใช้ความอดทน ความมานะพยายามอย่างสูง ในการเดินลงไป ขาลงไม่กลัว ขาขึ้นไม่แน่ใจว่าจะไต่ขึ้นมาไหวหรือไม่ และน่าจะเป็นการลงไปถ้ำเขาหลวงเป็นครั้งสุดท้ายของผม ที่จะไปแล้วลงไปในถ้ำ สมัยก่อนเคยไปมาตั้งแต่สี่สิบปีที่แล้ว เป็นการไปครั้งแรก ซึ่งครั้งนั้นจะต้องเดินไปจากจุดที่เรียกว่า ลานจอดรถ ยังไม่มีลาน ไม่มีบันไดเดินไปปากถ้ำ ต้องเดินไต่เขาไป พอถึงปากถ้ำต้องลงไปในถ้ำ ด้วยบันไดไม้ไผ่หวาดเสียวดีพิลึก แต่ตอนนั้นกับตอนนี้ผิดกัน เพราะร่างกายมันไม่ยอมไต่บันได ก็ยังดีที่ลงไปตามบันได ๙๙ ขั้น และไต่กลับขึ้นมาได้โดยไม่ต้องอาศัยโคร ค่อย ๆ ขึ้นมาอย่ารีบร้อนมันก็ขึ้นได้เอง