บ่อเกลือโบราณบ่อที่2 หรือ บ่อเกลือแห่งที่ 2 อยู่ติดกับศาลเจ้าพ่อซางคำ มีร้านค้าอยู่รอบๆบ่อ สินค้าที่ขึ้นชื่อคือ เกลือสปา (ใช้ขัดผิว) และเกลือผสมธาตุไอโอดีนใช้บริโภค จนถึงทุกวันนี้ชาวบ้านบ่อเกลือ ยังคงต้มเกลือด้วยวิธีแบบดั้งเดิม โดยตักน้ำเกลือจากบ่อส่งผ่านมาตามลำไม้ไผ่สู่บ่อพัก ก่อนจะนำน้ำเกลือมาต้มในกะทะใบบัวขนาดใหญ่เคี่ยวจนน้ำงวดแห้ง ใส่ถุงวางขาย กรรมวิธีไม่แตกต่างกับบ่อเกลือแห่งแรกเท่าไหร่
ประวัติโดยย่อบ่อเกลือโบราณบ่อหลวง
บ่อเกลือ ตามหลักฐานทางธรณีวิทยาสันนิษฐานได้ว่าในบริเวณนี้มีการตกตะกอนของน้ำทะเลในยุคทเพอร์เนียน(280 ล้านปีมาแล้ว) ต่อกับยุคโทรแอสสิค(230 ล้านปีมาแล้ว ) น่าจะมีชั้นเกลือใต้ดินหรือโดนเกลือหินอยู่ในบริเวณนี้ การขุดบ่ออาจจะบังเอิญไปพบน้ำเค็ม ใต้ดินทำให้การผลิตเกลือ จากบ่อน้ำเค็มเหล่านี้ ที่บ้านบ่อหลวงจึงมีการผลิตกันมาตั้งแต่ในสมัยประวัติศาสตร์ ปรากฏนามครั้งแรกเมื่ออ้างถึงบ่อมางและหลักฐานทางโบราณคดีต่างๆบ่งชี้ว่าชุมชนทีผลิตเกลือที่นี้ค่อนข้างรุ่งเรืองอนุมานว่าเป็นระยะแรก แต่หลังจากนั้นไม่อาจทราบได้เนื่องจากเกิดเหตุความวุ่นวายและไม่พบหลักฐาน ส่วนในระยะ2 ราวต้นพุทธศตวรรษที่24 บรรพบุรุษของชาวบ้านปัจจุบันน่าจะเป็นชาวไทลื้อที่มาจากเมืองที่เคยมีการผลิตเกลือในปริมาณมากแบบน่าน
การผลิตเกลือที่บ้านบ่อหลวง เริ่มจากการตักน้ำเกลือจากบ่อน้ำมาต้มในโรงต้นที่ต้องปิดทึบทั้ง 4 ด้านเพื่อกันลมเป็นการประหยัดเชื้อเพลิงทำให้เม็ดเกลือเล็กละเอียดเตาที่ใช้เป็นตาดินทำจากดินดิบก่อให้เป็นรูปเตามีช่องใส่ฟืนด้านหน้ารูระบายควันและความร้อน 2 ช่องด้านหลัง ว่ากระทะต้มเกลือ ได้ 2 กระทะ กระทะที่ใช้เหล็กไม่มีหูจับเส้นผ่าศูนย์กลางโดยเฉลี่ย 85 ซม. การต้มเกลือ 1กระทะต้องใช้เวลาประมาณ 4 ช.ม. ได้เกลือกระทะละ 15 กก. รวม 30 กก.ต่อการต้ม 1 ครั้งการต้มเกลือจะต้องต้มทั้งกลางวันและกลางคืน รวม 5 คืน 6 วันต่อหนึ่งกระทะแล้วจึงล้างกระทะพักเตาเพราะถ้าต้มนานกว่าจะทำให้กระทะเตาแตกได้เชื้องเพลิงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเพราะต้องจ้างคนชักลากฟืนไว้ให้เพียงพอสำหรับการต้มในครั้งหนึ่งๆ หากผลิตพร้อมกันมากๆ ทำให้เกิดการแย่งชิงกันได้ ผลผลิตเกลือจากบ้านบ่อหลวงในปัจจุบันลดน้อยลงมาก เมื่อเทียบการผลิตในอดีตเพราะความนิยมบริโภคเกลือทะเลเพิ่มขึ้นเนื่องมากจากการคมนาคมที่สะดวก