เปรียบเทียบ ความเหมือน ความแตกต่าง ระหว่าง
The Karate Kid เวอร์ชั่น 1984 และ เวอร์ชั่น 2010

          อยากที่ทราบๆ กันว่า The Karate Kid เป็นหนังรีเมคมาจากผลงานจากยุค 80 ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง แต่หลายๆ คนอาจจะเกิดหรือโตไม่ทันดูหนังเวอร์ชั่นเมื่อสิบกว่าปีก่อน ดังนั้นก่อนที่เราจะได้ชม The Karate Kid เวอร์ชั่นใหม่ มาดูกันก่อนดีกว่าว่าทั้งสองเวอร์ชั่นมีความเหมือน หรือ แตกต่างกันยังไงบ้าง...

เนื้อเรื่อง

เวอร์ชั่น ปี 1984 - เล่าเรื่องราวของ เดเนี่ยล หนุ่มน้อยผู้อ่อนโยนที่ย้ายบ้านมาอยู่เมืองใหม่ และถูกเพื่อนที่โรงเรียนกลั่นแกล้งไม่เว้นแต่ละวัน จนกระทั่งเค้าได้เรียนรู้คาราเต้จากลุงชาวญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่อพาร์ตเมนต์เดียวกัน และเพื่อนต่างวัยคนนี้ก็ไม่ได้สอนแต่เพียงคาราเต้เท่านั้น แต่ยังสอนให้รู้ถึงการเคารพตัวเอง และวิธีดำเนินชีวิตให้มีความสุขให้เขาอีกด้วย

เวอร์ชั่น ปี 2010 - เล่าเรื่องของเด็กชายวัย 12 ขวบ เดร ปาร์กเกอร์ (เจเดน สมิธ) ที่ต้องระหาระเหินเดินทางตามแม่ของเขา (ทาราจิ พี. เฮนสัน) ไปใช้ชีวิตที่จีนแผ่นดินใหญ่ ด้วยความแปลกถิ่นทำให้ เดร ต้องปรับตัวให้กับความแตกต่างด้านวัฒนธรรม แถมยังต้องตกเป็นลูกไล่ของเซ็ง อันธพาลขาใหญ่ประจำห้อง แต่แล้วโชคชะตาก็พาให้เดร ได้มาพบกับ ฮัน (เฉินหลง) ปรมาจารย์กังฟู ที่สอนให้เดร รู้ว่ากังฟูไม่ได้มีแค่การเตะต่อยเท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องของความสุขุมและความเยือกเย็นด้วย 

อาจารย์
 

เวอร์ชั่น ปี 1984 - แพท โมริตะ รับบทเป็น มิยากิ อาจารย์คาราเต้ของ เดเนี่ยล โดยบทที่ว่านี้ส่งให้ลุงแพทถูกเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์และลูกโลกทองคำในสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม จากความสำเร็จของ The Karate Kid ทำให้มีการสร้างหนังตามมาอีก 3 ภาค โดยลุงแพท ยังตามมารับบท มิยากิ เช่นเคย 

เวอร์ชั่น ปี 2010 - เฉินหลง รับบทเป็น ฮาน  ปรมาจารย์กังฟูชาวจีนของเดร โดยบทนี้ถือว่า เฉินหลง ได้รับบทที่ต้องใช้กังฟูซึ่งเป็นสิ่งที่เขาถนัด แต่เขาจะแสดงบทอาจารย์กังฟูได้ดีขนาดไหน คงต้องมาตามไปดูกันเอาเองในโรงหนังนะจ๊ะ

ลูกศิษย์ 

เวอร์ชั่น ปี 1984 - ราล์ฟห์ แม็คคิโอ รับบท เดเนี่ยล ไอ้หนุ่มคาราเต้ที่ทำให้เขาโด่งดังไปทั่วโลก และกลายเป็นไอดอลของวัยรุ่นในยุค 80แม็คคิโอ ยังคงตามมารับบทเดเนี่ยล จนถึงหนังภาค 3 (น่าเสียดายที่ แม็คคิโอไม่ได้แสดงต่อในภาค 4 ไม่งั้นเราคงได้เห็นเขาเล่นประกบกับนางเอก ฮิลารี่ สแวงค์)

เวอร์ชั่น ปี 2010 -  จาเดน สมิธ (ลูกชายของ วิลล์ สมิธ) รับบทเป็น เดร หลังจากรับบทเป็นพ่อลูกกัน ใน The Pursuit of the Happiness  วิลล์ สมิธ ก็สวมวิญญาณป๋าดันอีกครั้งในฐานะโปรดิวเซอร์ของ The Karate Kid ด้วยการส่งลูกชายตัวเองรับบทนำในหนังเรื่องนี้

ความสำเร็จ

เวอร์ชั่น ปี 1984 -หนังทำรายได้ไปถึง 90 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ ได้รับความนิยมอย่างสูงจากคอหนังทั่วโลก แม้แต่หนังวิจารณ์ชื่อดังอย่างโรเจอร์ อีเบิร์ต ยังเอ่ยปากชมว่า The Karate Kid เป็นหนึ่งหนังที่ดีที่สุดแห่งปีด้วย

เวอร์ชั่น ปี 2010 - เปิดตัวอย่างงดงามในบ๊อกซ์ออฟฟิศของสหรัฐฯ โดยทะยานขึ้นอันดับหนึ่งในสัปดาห์แรกที่เข้าแรกด้วยรายได้ 56ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ ซึ่งเบียดเอาชนะหนังฟอร์มยักษ์ที่เข้าฉายในสัปดาห์เดียวกันอย่าง The A-Team ที่ทำได้รายไปได้แค่ 26 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ เท่านั้น