เป็น เวลา 100 ปี ที่เรือสำราญลำประวัติศาสตร์ “ไททานิค” ได้จมลงสู่มหาสมุทรแอตแลนติก และได้ทิ้งความยิ่งใหญ่ของประวัติศาสตร์ให้โลกได้จารึก ซึ่งเรื่องราวของ “ไททานิค” ได้กลับมามีชีวิตบอกเล่าเรื่องราวผ่านชิ้นส่วนจริงที่กู้ได้จากซากเรือที่ สงบนิ่งใต้มหาสมุทร ในรูปแบบนิทรรศการสื่อผสม ที่คนไทยจะได้สัมผัสเป็นครั้งแรก
Titanic: The Artifact Exhibition ถือกำเนิดขึ้นจากการนำวัตถุกว่า 300 ชิ้นที่กู้จากซากเรือไททานิคมาจัดแสดงในลอนดอน
ซึ่งเป็นการผสมผสานกันอย่างลงตัวของการจัดแสดงเพื่อการศึกษาและคุณค่าทาง อารมณ์ ที่เหมาะสำหรับคนทุกวัย เรื่องราวการเดินทางของเรือไททานิค จะทำให้คุณได้เรียนรู้เรื่องราวต่างๆอย่างมากมาย
ทั้ง เทคโนโลยี, ความกล้าหาญ, มนุษยธรรมที่แลกด้วยเกียรติยศ และความพยายามอย่างยิ่งยวดของมนุษย์ในการเผชิญหน้ากับโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ โดยนิทรรศการได้ถ่ายทอดเรื่องราวของบุคคลที่น่าสนใจผ่านสิ่งของจริงและ เรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆ ขวดน้ำหอม ที่ประณีต,ชิ้นส่วนจากประเทศจีนมีโลโก้ของไวท์สตาร์ไลน์ และวัตถุอื่น ๆ อีกมากมายที่เก็บรวบรวมจากซากเรือ จะนำคุณไปสัมผัสกับความสะเทือนอารมณ์ของชีวิตที่สิ้นสุดลงอย่างกะทันหันและ การเปลี่ยนไปตลอดกาล
อันเกิดจากโศกนาฏกรรมทางทะเลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของโลก
ค.ศ. 1912 “ไททานิค” ถือได้ว่าเป็นเรือสำราญที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกพรั่งพร้อมไปด้วย ความหรูหรา สะดวกสบาย และด้วยรูปลักษณ์ ที่แข็งแกร่งจึงได้รับการขนานนามว่า Unsinkable Ship หรือเรือที่ไม่มีวันจม และชื่อ Titanic ซึ่งเป็นชื่อเทพเจ้าผู้ทรงพลัง แต่น่าเสียดายที่ “ไททานิค” ทำหน้าที่เพียงการเดินทางเพียง 1 เที่ยวเท่านั้น
เป็นเวลา 100 ปีที่เรือสำราญลำประวัติศาสตร์ได้จมลงสู่มหาสมุทรแอตแลนติก และได้ทิ้งความยิ่งใหญ่ของประวัติศาสตร์ให้โลกได้จารึก “ไททานิค” ได้กลับมามีชีวิตบอกเล่าเรื่องราวผ่านชิ้นส่วนจริงที่กู้ได้จากซากเรือที่สงบนิ่งใต้มหาสมุทรในรูปแบบนิทรรศการสื่อผสมระดับสากล ที่คนไทยจะได้สำผัสเป็นครั้งแรก เราจะนำคุณไปสัมผัสกับความสะเทือนอารมณ์ของชีวิตที่สิ้นสุดลงอย่างกระทันหันและการเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาลอันเกิดจากโศกนาฏกรรมทางทะเลที่ยิ่งใหญ่ พร้อมสัมผัสของจริงจากซากเรือที่กู้ได้ในงาน
“100 ปี ไททานิค” นิทรรศการแห่งประวัติศาสตร์โลก
9 มิถุนายน – 2 กันยายน 2555
เซ็นทรัลเวิลด์ ไลฟ์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 8
ไททานิกอาร์เอ็มเอส ไททานิก (RMS Titanic) หรือ เอสเอส ไททานิก (SS Titanic) คือชื่อเรือเดินสมุทรของบริษัทไวท์ สตาร์ ไลน์ (White Star Line) เริ่มก่อสร้างเมื่อ ค.ศ. 1909 สร้างเสร็จเมื่อ ค.ศ. 1911 ที่เบลฟาสท์ ไอร์แลนด์ (Belfast Ireland) พร้อมๆ กับเรือคู่แฝดที่ชื่อว่า อาร์เอ็มเอส โอลิมพิก (RMS Olympic) ซึ่งเบากว่าไททานิกถึง 1000 ตัน
ลักษณะเฉพาะของเรือ
ไททานิกเป็นเรือที่เปิดศักราชใหม่ให้กับอุตสาหกรรมเรือเดินสมุทร เนื่องจากเป็นเรือลำแรกๆ ของโลกที่สร้างโดยโลหะและรองรับผู้โดยสารได้ถึง 2433 คน ยาว 269.0622 เมตร กว้าง 28.194 เมตร หนัก 46328 ตันอิมพีเรียล(47071434.4681 กิโลกรัม) แบ่งเป็น 9 ชั้น เรียงจากชั้นบนลงชั้นล่างได้ดังนี้
9. ดาดฟ้า สงวนไว้ให้ผู้โดยสารชั้นหนึ่ง มีปล่องไฟ 4 ตัว สูงตัวละ 19 เมตร
8 .ชั้น A ห้องนั่งเล่นของผู้โดยสารชั้นหนึ่ง
7. ชั้น B ห้องอาหารของผู้โดยสารชั้นหนึ่ง
6. ชั้น C ห้องสมุดของผู้โดยสารชั้นสอง ห้องเอนกประสงค์ของผู้โดยสารชั้นสาม
5. ชั้น D ห้องอาหารของผู้โดยสารชั้นสอง
4. ชั้น E ห้องนอนของผู้โดยสารชั้นหนึ่ง สอง สาม ลูกเรือ
3. ชั้น F ห้องอาหารของผู้โดยสารชั้นสาม ห้องออกกำลังกายส่วนรวม
2. ชั้น G สระว่ายน้ำส่วนรวม ห้องเก็บกระเป๋าเดินทาง
1. ชั้นห้องเครื่องมี 16 ห้อง หม้อน้ำรวม 29 ชุด ส่งเชื้อเพลิงให้เครื่องยนต์ 3 ตัว เครื่องยนต์ 3 ตัว หมุนใบจักร 3 ใบ รวม 50000 แรงม้า เร่งความเร็วเรือได้สูงสุด 24 น็อต(44.448 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ห้องเครื่องทั้ง 16 ห้องมีกำแพงสูงถึงชั้น F และมีประตูกลซึ่งจะปิดลงมาทุกบานทั่วลำเรือเมื่อพบเหตุผิดปกติที่ห้อง เครื่องใดห้องเครื่องหนึ่ง ซึ่งถ้าหากไม่เกิดรอยรั่วในหลายห้องเครื่องจนเกินไป ตามหลักการลอยตัวแล้ว เรือจะไม่จม ถึงแม้จะเป็นจุดอ่อนที่สุดของเรือซึ่งก็คือหัวเรือ ก็ยังรับรอยแตกได้ถึง 4 ห้องเครื่องติดกันโดยไม่จม
แต่ว่าเรือสำรองช่วยชีวิตหรือเรือบดนั้นเพียงพอสำหรับผู้โดยสารเพียง 1178 คนเท่านั้น
ไททานิกชนภูเขาน้ำแข็งและอับปางลงในวันที่ 15 เมษายน ค.ศ. 1912 หรือกว่า 80 ปีมาแล้ว ซากเรือลำนี้จมอยู่ใต้ความลึกถึง 12,500 ฟุต (ราว 4 กิโลเมตร) ซึ่งความลึกขนาดนี้จะมีแรงอัดมหาศาลถึง 5,500 ปอนด์ต่อ ตารางนิ้ว
ขณะที่จมดิ่งลงมาลึกราว 300 เมตร ลำเรือก็แตกร้าวเป็นสองท่อน ด้านหัวเรือซึ่งยาวกว่าพุ่งนำลงมาก่อน ลากเอาส่วนท้ายตามลงมาในแนวดิ่ง แล้วก็หักหลุดจากกัน ท่อนหัวดำดิ่งพุ่งลิ่วยังกับตอร์ปิโด โครงสร้างและอุปกรณ์ต่างๆ กระจัดกระจายไปทั่ว แล้วหัวเรือก็ปักจมลงไปในโคลนใต้สมุทรลึกประมาณตึก 6 ชั้น