11 ขั้นตอนเลือกซื้อของขวัญให้คนพิเศษ
11 ขั้นตอนเลือกซื้อของขวัญให้คนพิเศษ เวลาปีๆ หนึ่งมันช่างผ่านไปเร็วซะเหลือเกิน นี่ก็จวนเจียนใกล้ถึงวันที่ต้องหาซื้อของขวัญกันอีกแล้ว นอกจากจะวางแผนสวีทกับคนรักแล้ว หลายคนคงต้องสาละวนกับการเตรียมของขวัญให้คนพิเศษไปพร้อมๆ กันด้วย แล้วเรื่องแบบนี้สนุกเสียเมื่อไหร่ เพื่อทำชีวิตของคุณให้ยุ่งเหยิงน้อยลง เรามีวิธีเลือกซื้อของขวัญอย่างละเอียดยิบมาฝาก
ขั้นตอนที่ 1
ลองลิสต์รายชื่อบุคคลที่คุณจะซื้อของขวัญหรือการ์ดให้ในวันปีใหม่ และเรียงลำดับความสำคัญ ว่าควรให้ใครก่อนหลัง
ขั้นตอนที่ 2
สำรวจเงินในกระเป๋าตัวเองก่อนว่ามีงบเท่าไรที่จะซื้อของ เพราะถ้ามีงบน้อยก็ไม่ควรซื้อของมากและราคาแพงเกินไป เดี๋ยวจะไม่เหลือเงินไปเที่ยวพักผ่อน
ขั้นตอนที่ 3
เสาะหาแหล่งที่จะจับจ่ายซื้อของให้ละเอียดว่าที่ไหนราคาถูกและมีของดีมีคุณภาพ อย่าคิดแต่ว่าต้องไปซื้อหาตามห้างเสมอไป ถ้านึกไม่ออกลองคลิกดูที่ เคล็ดลับนักช็อป หน้า “ แหล่งช็อปปิ้งแสนประหยัดของผู้หญิงวันนี้”
ขั้นตอนที่ 4
ควรออกไปสืบราคามาก่อนว่า ของขวัญที่คุณจะซื้อราคาประมาณเท่าไร มีขายที่ไหนบ้าง และถ้าเกิดซื้อจากแหล่งต้นทุน และซื้อทีละหลายๆ ชิ้นจะถูกกว่าหรือไม่
ขั้นตอนที่ 5
คิดไว้คร่าวๆ ว่า ใครคนไหนจะเหมาะกับของแบบไหนอย่างไร เพื่อที่ว่าถึงเวลาไปช็อปปิ้งจริงๆ จะได้ไม่สับสนว่า จะซื้อของชิ้นนี้ให้คนไหนดี
ขั้นตอนที่ 6
อย่างที่รู้ๆกันคือ ใกล้ถึงปีใหม่ ห้างสรรพสินค้าชอบลดกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์ ลองเปิดดูหน้าโฆษณาตามหน้าหนังสือพิมพ์ ว่ามีห้างไหนลดราคาบ้าง จากนั้นก็ลองไปสืบราคาและคำนวณดูว่าห้างไหนถูกที่สุด และเหมาะที่คุณจะไปช็อปหาของถูกใจให้คนใกล้ชิด
ขั้นตอนที่ 7
ตามปกติถ้าคุณซื้อของขวัญในห้างสรรพสินค้า ทางห้างมักจะมีบริการห่อของขวัญให้ฟรี คิดดูแล้วของบางอย่างถ้าเลือกซื้อในห้างก็คุ้มเหมือนกัน เพราะประหยัดกว่ากันตั้งแยะ ดีกว่าคุณไปจ้างเขาห่อหรือห่อเอง เพราะไหนจะค่ากระดาษค่าริบบิ้น เสียทั้งเงินและเวลา หนำซ้ำถ้าห่อไม่สวยอายเขาเปล่าๆ
ขั้นตอนที่ 8
อย่าซื้อสินค้าหรือของขวัญที่เพียงแค่มองผ่านชั่ววูบ เพราะแค่วูบที่เห็นแค่สวยผ่านๆ อาจจะทำให้คุณเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ได้
ขั้นตอนที่ 9
ซื้อของอย่าลืมกฎเหล็ก ต่อรองราคาไว้เถิดจะเกิดผล เพราะเศรษฐกิจยุคนี้ทำให้คนเห็นแก่ตัวมากขึ้น ร้านค้าอาจจะตั้งราคาเกินจริง เราก็ควรต่อรองเพื่อช่วยเซฟเงินในกระเป๋าตัวเอง
ขั้นตอนที่ 10
แต่การซื้อของจากแหล่งอื่นๆ ที่ไม่ใช่ห้างสรรพสินค้า อาจถูกก็จริงแต่ต้องดูให้ละเอียด เพราะบางชิ้นอาจมีตำหนิและไม่มีใบประกัน ซึ่งบางเจ้าเราไม่สามรรถขอเปลี่ยนหรือคืนได้เลย
ขั้นตอนที่ 11
สำหรับคนที่งบน้อยจริงๆ อาจจะลองทำการ์ดเก๋ๆ ด้วยตัวคุณเองแล้วส่งให้คนที่คุณอยากซื้อของขวัญให้หรือส่งเป็น e-card ไปก็ได้ เพราะบางครั้งของแบบนี้อาจมีค่าทางใจมากกว่าของขวัญราคาแพงซะอีก เชื่อว่าการ์ดใบเดียวไม่ยากเกินความสามารถของคุณ และรับรองเขาต้องประทับใจแน่นอน