เตือนคนริมฝั่งโขงเตรียมพร้อมรับมือ สป.จีนระบายน้ำเขื่อนจิ่งหงลงน้ำโขงเต็มที่กว่า 2 พัน ลบ.ม.ต่อวินาที คาดอีก 2-3 วันต่อจากนี้มวลน้ำถึงสามเหลี่ยมทองคำ พรมแดนไทย-สปป.ลาว ด้านชายแดนเชียงแสน ล่าสุดหน้าอำเภอฯ น้ำลึกเกือบ 6 เมตรแล้ว
จากปริมาณน้ำที่มีอยู่ในแม่น้้ำโขงอย่างมากมายในปัจจุบัน ทางการจีนก็แจ้งว่าไม่ได้เกิดจากน้ำเหนือเขื่อน แต่ส่วนใหญ่มาจากน้ำในแม่น้ำสาขาที่ไหลลงแม่น้ำโขงมากกว่า
สำหรับเขื่อนจิ่งหง ตั้งอยู่เหนือตัวเมืองเชียงรุ้งขึ้นไป ห่างจากเชียงแสนไปทางเหนือประมาณ 344 กิโลเมตร เป็นเขื่อนขนาดใหญ่ที่มีความสูงถึง 118 เมตร กำลังผลิตไฟฟ้า 1,500 เมกะวัตต์ สร้างแล้วเสร็จแล้วเมื่อปี ค.ศ. 2009 โดยทางการจีนใช้เพื่อกักเก็บน้ำและผลิตกระแสไฟฟ้า
นอกจากนี้ยังมีเขื่อนในแม่น้ำโขงของจีนอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเขื่อนหมั่นวาน เขื่อนต้าเฉาชาน เขื่อนเชี่ยววาน และเขื่อนที่อยู่เหนือสุดคือเขื่อนกอนเกาเคียว ซึ่งล้วนเป็นเขื่อนขนาดใหญ่ที่กั้นในแม่น้ำโขง รวมทั้งยังมีโครงการจะสร้างเขื่อนอื่นๆ ตามมาอีกหลายแห่งด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระดับน้ำในแม่น้ำโขงพื้นที่ชายแดนไทย-สปป.ลาว ด้าน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ตรงข้ามกับเมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ยังคงมีระดับที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งมาจากการที่มีฝนตกหนักทางตอนเหนือ และทางการจีนปล่อยน้ำจากเขื่อนจิ่งหง เมืองเชียงรุ้งหรือจิ่งหง เขตปกครองตนเองสิบสองปันนา มณฑลยูนนาน
ล่าสุดระดับน้ำในแม่น้ำโขงบริเวณด้านหน้าที่ว่าการ อ.เชียงแสน วัดได้ลึกประมาณ 5.56 เมตร และที่ ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน บริเวณท่าเรือแห่งที่ 2 ระดับน้ำลึกประมาณ 5.75 เมตร ยังไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ริมฝั่ง แต่ทำให้การเดินเรือสินค้า และเรือท่องเที่ยวสะดวกขึ้น ไม่มีปัญหาเรื่องตะกอนทราย
น.ส.ผกายมาศ เวียร์ร่า รองประธานหอการค้า จ.เชียงราย เปิดเผยว่า ทางศูนย์ควบคุมแม่น้ำล้านช้าง หรือแม่น้ำโขงของจีน ได้แจ้งปริมาณการปล่อยน้ำจากเขื่อนจิ่งหงมาอย่างต่อเนื่อง โดยวันที่ 19 ส.ค.มีการระบายน้ำ 1,461 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที วันที่ 22 ส.ค.ระบายน้ำออกจากเขื่อนสูงขึ้นเป็น 2,008 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา แม้อัตราการไหลเข้าลดลงเหลือเพียง 10 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แต่อัตราการไหลออกสูงขึ้นเป็นกว่า 2,432 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ขณะที่ตามปกติเขื่อนจะปล่อยน้ำเฉลี่ยเพียงไม่เกิน 1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีเท่านั้น
ด้วยเหตุนี้จึงคาดว่าในอีก 2-3 วันข้างหน้ามวลน้ำดังกล่าวจะไหลมาถึงชายแดนด้าน อ.เชียงแสน ซึ่งจะทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำโขงมีมากขึ้น และหากว่ายังคงมีการระบายน้ำเพิ่มเช่นนี้อีก ก็จะไหลไปถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ทั้ง จ.นครพนม จ.หนองคาย ฯลฯ ต่อไป