ดอยอ่างขาง แหล่งชมซากุระ 1 ใน 8 แห่งของเมืองไทยที่นอกจากจะขึ้นชื่อในเรื่องของการเป็นแหล่งชมดอกไม้เมืองหนาวนานาชนิดแล้วที่นี่ยังเป็นอีกหนึ่งแหล่งชมซากุระอันสวยงาม จุดเด่นของอ่างขางนอกจากจะมีซากุระไทยอย่างนางพญาเสือโคร่งให้ชมบนเส้นทางถนนที่ขึ้นไปยังดอยอ่างขาง ยังมีต้นซากุระแท้ๆ จากญี่ปุ่นปลูกไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ชมและถ่ายรูปกันภายในสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง บานสะพรั่งสวยงามในช่วงวันปีใหม่
เส้นทางท่องเที่ยวบนดอยอ่างขางนั้นมีพญาเสือโคร่งขึ้นอยู่มากมาย 2 ข้างทาง มีให้ชมหลายช่วงแล้วแต่ว่าจะหาที่จอดเหมาะๆ และปลอดภัย บานเต็มสองข้างทางถนนทางขึ้น ดอยอ่างขางไปตลอดจนถึงโครงการหลวง
นางพญาเสือโคร่ง ต้นไม้ที่จัดอยู่ในวงศ์เดียวกับต้นซากุระของประเทศญี่ปุ่น คือ วงศ์กุหลาบ (Rosaceae) โดยนางพญาเสือโคร่งอยู่ในสกุล Prunus เช่นเดียวกับต้นเชอรี่ แอปริคอต พลัม แอปเปิลท้อ และ สาลี่ ซึ่งเป็นพรรณไม้ที่ชอบอากาศหนาวเย็น ต้นนางพญาเสือโคร่ง มักพบอยู่ตามไหล่เขา หรือบนสันเขา บริเวณเหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง ตั้งแต่ 1,000 เมตรขึ้นไป ที่มีอากาศหนาวเย็น
ในช่วงก่อนที่ต้นนางพญาเสือโคร่งจะออกดอกนั้น จะเหมือนกับต้นไม้ใกล้ตาย เพราะมันจะทิ้งใบจนหมดต้น เหลือแต่กิ่งเปล่าๆ แต่หลังจากที่โกร๋นไปทั้งต้นแล้วนางพญาเสือโคร่งก็จะผลิดอก โดยจะออกเป็นช่อกระจุกตามปลายกิ่ง ให้สีสันชมพูดูสดใส โดยเฉพาะยามที่ดอกบานเต็มต้นจะประหนึ่งเหมือนพรมสีชมพูปกคลุมไปทั่วทั้งต้น ดูงดงามอ่อนหวาน เป็นที่หลงใหลของผู้ที่ได้พบเห็นอยู่เสมอ ความแตกต่างระหว่างนางพญาเสือโคร่งและซากุระญี่ปุ่น ลักษณะนางพญาเสือโคร่ง ดอกมีสีชมพูอ่อน ลำต้นจะมีลายเป็นขั้นๆ ใบเรียวยาว ปลายใบแหลม ส่วนลักษณะซากุระญี่ปุ่น ดอกมีสีชมพูเข้ม เป็นดอกซ้อน ขนาดดอกใหญ่กว่าดอกนางพญาเสือโคร่ง ลำต้นไม่เป็นลายขั้นเหมือนนางพญาเสือโคร่ง ใบไม่มันวาว ใบเป็นลักษณะวงรี แต่ปลายใบไม่แหลม