1. หมู่เกาะมัลดีฟส์ (Maldives) ประเทศมัลดีฟส์
สาธารณรัฐมัลดีฟส์ เกาะในฝันของหนุ่มๆสาวๆที่รักทะเล ต้องไปให้ได้เป็นประเทศที่มีพื้นที่ประกอบด้วยหมู่เกาะปะการังจำนวนมากในมหาสมุทรอินเดีย และตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศอินเดียและศรีลังกา
2. ลูเซิร์น (Lucerne หรือ Luzerne) ประเทศสวิสเซอร์แลนด์
เมืองที่อยู่ใจกลางประเทศ ทางฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของทะเลสาบลูเซิร์น เป็นสถานที่ไว้คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก มีทะเลสาบที่สวยงาม อยู่ท่ามกลางหุบเขา ทัศนียภาพรอบๆบริเวณทะเลสาบลูเซิร์น ตลอดริมทางมีบ้านเรือนแบบสมัยใหม่ มีถนนเลียบตามเนินเขา ริมทางจัดเป็นสวนสาธารณะ อากาศเย็นสบาย เหมาะแก่การท่องเที่ยวสำหรับทุกวัย น่าจะเป็นอีกหนึ่งทริปที่สามารถสร้างความประทับใจให้แก่ท่าน
3. เมืองพาโร (Paro) ประเทศภูฏาน
เมืองเล็กๆ ที่มีประชากรเพียงหลักหมืน มากด้วยอารยธรรม ผู้คนน่ารัก อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี เพราะอยู่ในที่ราบสูง มีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ หลายแห่ง
4. ซานฟรานซิสโก (San Francisco) ประเทศสหรัฐอเมริกา
เมืองที่เป็นสัญลักษณ์การท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของประเทศ สหรัฐอเมริกา คุณสามารถสัมผัสถึงสิ่งน่าตื่นตาตื่นใจทั้งสถานที่, กิจกรรมต่างๆ และ งานเทศกาล. แม้เป็นการเดินทางครั้งแรกมาที่ ซานฟรานซิสโก (CA) แต่เราเชื่อว่าคุณจะเพลิดเพลินกับการค้นหาและสำรวจ ซานฟรานซิสโก (CA). สำหรับสะพานโกลด์เด้นเกท (Golden Gate Bridge) เป็นหนึ่งในท็อปเท็นของสถานที่ท่องเที่ยวที่ Must see และมีอายุครบ 65 ปีแล้ว เป็นสะพานที่เชื่อมไปยัง Marin Country เหมาะแก่การเดินเล่นหรือขี่จักรยาน หากไม่ได้มาชมสะพานนี้ก็เหมือนกับยังไม่ได้มาซานฟรานซิสโก
5. ซัปโปโร (Sapporo) เกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น
ซัปโปโรเป็นเมืองที่อยู่เคียงข้างธรรมชาติอันกว้างใหญ่ มีภูเขาอยู่ใกล้ๆ ที่นึกอยากจะไปก็ไปได้เลยในวันที่อากาศแจ่มใส ฤดูใบไม้ผลิที่ต้นไม้เพิ่งแตกยอดอ่อนใหม่ๆ สีเขียวอมเหลืองอันสดใส ฤดูร้อนที่แว่วเสียงจักจั่นร้องระงมในป่าเขียวขจี และฤดูใบไม้ร่วงที่มีใบไม้เปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองสีแดง ฤดูหนาวอันเงียบสงบและมีหิมะปกคลุม ซัปโปโรมีภูมิอากาศแตกต่างกันไปตามฤดูกาลทั้งสี่ ทำให้การเปลี่ยนแปลงทางด้านธรรมชาติก็มีสีสันสดใสไปด้วย
6. ปารีส (Paris) ประเทศฝรั่งเศส
นับเป็นเมืองน่าเที่ยวที่สุดเมืองหนึ่ง สำหรับกรุง "ปารีส" ที่หากใครได้ไปเยือนแล้วก็ต้องตกหลุมรักในบรรยากาศอันสุดแสนจะโรแมนติกของเมือง ๆ นี้ จนอยากจะกลายเป็นคนเมืองนี้ขึ้นมาเลยทีเดียว สิ่งที่นักท่องเที่ยวเกือบทุกคนต้องการเห็นเมื่อไปถึงปารีสวันแรกคือหอไอเฟล จากนั้นโดยปกติก็จะอยากเห็นพิพิธภัณฑ์ลูฟ พระราชวังแวร์ซาย เรื่อยไปจนถึงมหาวิหารอย่างนอร์ทเธอร์ดาม และซาเคอร์เคอร์ จากนั้นจึงอยากจะสัมผัสกับย่านความบันเทิงยามราตรีที่มีชื่อกระฉ่อนโลกคือ มูแลงรูจ ในย่านปิกาเล่อันเต็มไปด้วยมายาและความหลอกลวงที่มนุษย์จะสรรหามาเล่นสนุกกัน สถานที่เหล่านี้ประดุจหลักชัยสำหรับนักเดินทางที่ต้องไปเยือนให้ได้ครั้งหนึ่งในชีวิต
7. ปราสาทนอยชวานสไตน์ ประเทศเยอรมัน
ปราสาทนอยชวานชไตน์ ตั้งอยู่ในเทือกเขาแอลป์ แถบแคว้นบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี ถูกสร้างขึ้นด้วยรับสั่งของพระเจ้าลุดวิกที่ 2 แห่งบาวาเรีย ซึ่งเป็นที่รู้จักอีกชื่อหนึ่งในนาม "แฟรี่เทล คิง" (Fairytale King) หรือ กษัตริย์แห่งเทพนิยาย ในศตวรรษที่ 19 ปราสาทนอยชวานสไตน์ สร้างขึ้นบนยอดเขาลูกนึง ที่รายล้อมด้วยภูมิทัศน์ที่สวยงามของเทือกเขาแอลป์และทะเลสาบด้านล่าง จุดประสงค์ของการสร้างปราสาทนี้เพื่อให้ผสานกลมกลืนไปกับธรรมชาติอันงดงามรอบด้าน ปกติการสร้างปราสาทจะต้องมีสวนที่สวยงามเป็นบริเวณกว้าง มีการสร้างบ่อน้ำพุในสวน แต่นอยชวานสไตน์ไม่จำเป็นต้องมีสวน เพราะมีธรรมชาติอันน่าอัศจรรย์รายล้อมอยู่แล้ว จึงไม่ต้องมีน้ำพุเพราะมีน้ำตกทางธรรมชาติอยู่ใกล้ ๆ
8. ควีนสทาว์น (Queenstoen) ประเทศนิวซีแลนด์
เป็นเมืองแห่งสันติสุข ชาวเมืองมีอัธยาศัยดี เป็นมิตร มีคดีความน้อยมาก แทบไม่มีคนว่างงาน เนื่องจาก ควีนส์ทาวน์ เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ท่ามกลางเทือกเขาขนาดใหญ่ที่ชื่อ The Remarkables ซึ่งอุดมไปด้วยธรรมชาติอันสวยงามบนชายฝั่งของ ทะเลสาบวาคาติปู (Wakatipu) จึงทำให้วิวทิวทัศน์ของที่นี่งดงามราวกับภาพฝัน เหมาะเป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวของคนทั่วไป
9. เมืองลี่เจียง - ภูเขาหิมะ ประเทศจีน
เป็นเมืองที่มีอากาศหนาวเย็นตลอดปี เป็นที่ตั้งถิ่นฐานของชนเผ่านาซี ซึ่งอพยพมาจากทิเบต เผ่านาซีอยู่ในสังคมที่มีผู้หญิงเป็นใหญ่ ที่เมืองลี่เจียงถ้าท้องฟ้าแจ่มใส จะมองเห็นภูเขาหิมะมังกรหยกทั้ง 13 ยอด และเงาของภูเขาหิมะจะสะท้อนลงบนสระน้ำมังกรดำ ถือว่าเป็นภาพที่สวยที่สุดในลี่เจียง มีประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ยาวนานกว่า 800 ปี และเป็นที่ตั้งถิ่นฐานของชนเผ่าหน่าซี (Naxi) ที่อพยพมาจากทิเบต
10. พระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า
พระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง ตั้งอยู่ในเมืองพุกาม คำว่า ชเวซิกอง มีความหมายว่าเจดีย์ทองแห่งชัยชนะ สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอโนรธามังช่อ องค์มหาเจดีย์เป็นทอง รูประฆังทรงคว่ำ ซึ่งเป็นสถานที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และพระเขี้ยวแก้วที่อัญเชิญมาจากศรีลังกา มีประวัติการสร้างเก่าแก่ยาวนานกว่า 2,500 ปี ตั้งแต่ครั้งนครย่างกุ้งยังเป็นของชาวมอญ ชาวพม่าเชื่อว่า เป็นสถานที่บรรจุพระเกศาธาตุจำนวน 8 เส้น ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเครื่องอัฐบริขาร ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอดีตอีก 3 พระองค์