เรื่องของความกลัวเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับมนุษย์เสมอมา โดยเฉพาะความกลัวในสิ่งลึกลับ หรือสิ่งที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ แต่หลายๆ คนก็อยากจะเข้าไปสัมผัสกับความรู้สึกกลัว เพื่อทดสอบความกล้าที่มีอยู่ในจิตใจ

       

       ฉันก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ชื่นชอบความท้าทายแบบนี้ เพราะนอกจากจะได้ทดสอบความกล้าแล้ว ก็ยังได้อารมณ์ตื่นเต้นเร้าใจ ทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นอีกโข ดังนั้นฉันก็เลยจะพาไปเที่ยวกันที่ Mansion 7

 

       เห็นชื่อว่า Mansion 7 ก็อย่าได้คิดว่าเป็นคฤหาสน์ธรรมดาๆ แต่ที่นี่เป็นศูนย์การค้า และสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่อยู่ภายใต้แนวคิด Boutique Thriller Mall ซึ่งเกิดจากแนวคิดของคุณภัทรา สหวัฒน์ หรือคุณก้อย ผู้ให้กำเนิด “เพลินวาน” แหล่งท่องเที่ยวสุดฮิตที่หัวหิน

       

       ทำเลที่ตั้งของ Mansion 7 นั้นอยู่บริเวณปากซอยรัชดาภิเษก 14 ที่เรียกได้ว่าเป็นย่านธุรกิจใจกลางเมือง ร้านค้าต่างๆ ใน Mansion 7 จึงเน้นเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันของกลุ่มคนทำงานในเมืองหลวง

 

 

ดวงจันทร์กลมโตกลางลานกว้าง

       ในด้านของการตกแต่ง ก็เรียกได้ว่ามีความแปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร เพราะตั้งแต่ทางเข้าที่ฉันได้มองเห็นนั้น ก็จะเป็นรูปร่างคล้ายกับอุ้งมือขนาดใหญ่ และเป็นสวนที่ถูกทิ้งร้าง กิ่งไม้ใหญ่น้อยสีม่วงนั้นแตกแขนงออกมาจนดูรกเรื้อ โอบพันอยู่โดยรอบ

       

       เมื่อเดินผ่านเข้ามาสู่ด้านในที่เป็นลานโล่ง ก็จะมีจุดสนใจอยู่ที่ดวงจันทร์กลมโตลูกใหญ่ที่อยู่ด้านบน การตกแต่งโดยรอบจะอยู่ในบรรยากาศที่ชวนให้น่าขนลุก เป็นตึกรามบ้านช่องที่คล้ายจะถูกทิ้งร้าง ซึ่งดูแล้วเหมือนกับจะย้อนยุคไปในช่วงที่เริ่มเปิดรับวัฒนธรรมตะวันตกเข้ามา

 

 

ร้านเบเกอรี่ในโซน Garden

       โดยใน Mansion 7 แห่งนี้ จะแบ่งออกเป็น 3 โซนหลัก ได้แก่ Garden Area ในส่วนนี้จะอยู่ด้านหน้าตรงทางเข้า ประกอบด้วยร้านค้าแนวบูติค ร้านตกแต่งเล็บ ร้านเบเกอรี่ ไอศกรีม และอื่นๆ ที่คัดเลือกมาให้เหมาะกับคนที่ชื่นชอบความแปลกใหม่

       

       โซนถัดไป คือ Playground Area โซนนี้จะมีเครื่องเล่นต่างๆ ที่ท้าทายความสามารถของผู้เล่น รวมถึงร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อย่างเช่น ร้านเครื่องเส้น ที่มีเส้นขนมจีนสีดำเป็นตัวชูโรง ร้านกาแฟโบราณจากเพลินวาน ที่ยกเอาบรรยากาศแบบเพลินวานที่หัวหินมาไว้ที่นี่ เป็นต้น ซึ่งใน Playground Area ก็จะมีลานกว้างที่อยู่ตรงกลาง สามารถมาเช่าจัดงานอีเวนท์ได้ด้วย

 

 

ร้านเครื่องเส้น ในโซน Playground

       และโซนสุดท้าย คือ Mansion Area ในส่วนนี้เหมาะกับคนที่ชอบความตื่นเต้นอย่างฉันเป็นที่สุด เพราะเป็นที่ตั้งของคฤหาสน์ลึกลับความสูง 3 ชั้น สถาปัตยกรรมแนวตะวันตกยุคล่าอาณานิคม ที่แค่มองจากภายนอกก็รู้สึกขนลุกได้แล้ว ซึ่งคฤหาสน์แห่งนี้เรียกกันว่า Dark Mansion และถือว่าเป็นจุดเด่นของ Mansion 7 แห่งนี้เลยทีเดียว

       

       แหม…มาถึงที่กันขนาดนี้แล้ว จะไม่ลองเข้าไปท้าทายกับความกลัวก็ดูกระไรอยู่ ฉันเลยพาสองขาเดินเข้าไปด้านในด้วยจังหวะหัวใจที่เต้นระรัว พร้อมรับกับความตื่นเต้นที่จะเกิดขึ้น

 

 

บรรยากาศแบบเพลินวานก็มีอยู่ที่ Mansion 7

 

       ต้องบอกก่อนว่า ผู้ที่จะเข้าไปด้านในนั้น จะแบ่งคนออกเป็นรอบๆ รอบละประมาณ 4-5 คน เพื่อให้ได้รับความตื่นเต้น สนุกสนานอย่างเต็มที่ และด้านในนั้นยังไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพ ซึ่งฉันก็ว่าดีเหมือนกัน เพราะถ้าหากว่าได้เห็นภาพภายในมาก่อน ก็อาจจะไม่ได้อารมณ์เต็มที่เวลาเข้ามาดู ฉะนั้น ถ้าอยากจะรู้ว่ามีความระทึกขวัญ หรือน่ากลัวแค่ไหน ก็ต้องลองมาสัมผัสด้วยตัวเอง

       

       และก่อนที่จะเข้าไปอย่างเต็มตัว ก็จะได้รับทราบเรื่องราวความเป็นมาของคฤหาสน์หลังนี้ก่อน เพื่ออรรถรสในการเข้าชม ซึ่งฉันก็ขอนำมาเล่าให้รู้เรื่องคร่าวๆ ก่อนแล้วกัน

 

 

ทางเข้าสู่คฤหาสน์ Dark Mansion

 

       คฤหาสน์หลังนี้สร้างขึ้นโดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศส มีเจ้าของคือท่านเจ้าคุณรัชดาพิริยโยธา ซึ่งในภายหลังถูกจับเป็นเชลยสงคราม และถูกทรมานอย่างแสนสาหัส เมื่อได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสระ ก็เริ่มมีพฤติกรรมแปลกไป รวมไปถึงบุตรสาวคนเดียวก็ล้มป่วยลงด้วยโรคประหลาด และสิ้นลมหายใจในวันเกิดครบรอบ 17 ปี เหลือทิ้งไว้แต่เพียงซากงานฉลองวันเกิด และเสียงเพลงจากกล่องดนตรีที่บิดาสั่งทำขึ้นเป็นพิเศษ

       

       ท่านเจ้าคุณเศร้าเสียใจเป็นอันมาก แต่ก็ไม่ได้ยอมแพ้ต่อโชคชะตา พยายามทดลองเพื่อหาวิถีทางรักษาบุตรสาวให้ฟื้นคืนมา กาลเวลาผ่านไป ก็มีเสียงเล่าลือกันว่ามักได้ยินเสียงร้องโหนหวนออกมาจากคฤหาสน์หลังนี้ นอกจากนี้ก็ยังมีเสียงซุบซิบอีกว่า ภายในคฤหาสน์มีทั้งกลไกห้องลับ ใช้เป็นที่กักขังและห้องทดลองที่ใช้มนุษย์เป็นเหยื่อ รวมไปถึงสถาปนิกชาวฝรั่งเศสที่เป็นผู้สร้างบ้านหลังนี้ ก็หายสาบสูญไปภายหลังจากมาพบท่านเจ้าคุณในคืนหนึ่ง และเมื่อเวลาผ่านไป เรื่องราวเหล่านี้ก็ค่อยๆ เงียบหายไป เหลือเพียงแต่ความลับดำมืดที่รอให้ผู้คนเข้ามาพิสูจน์

 

 

ลานกว้างตรงกลางของโซน Playground

 

       แม้ฉันจะรู้อยู่ล่วงหน้าว่าเป็นเรื่องที่แต่งขึ้น แต่ก็ทำให้ขนพองสยองเกล้าอยู่เหมือนกัน เพราะการตกแต่ง อุปกรณ์ประกอบ เสียง และแสง ที่สมจริงเป็นอย่างยิ่ง ล้วนแต่ช่วยกันทำให้บรรยากาศชวนขนหัวลุกเสียเหลือเกิน จึงทำให้ได้ยินเสียงกรีดร้องด้วยความตกใจอยู่เนืองๆ

       

       และนอกจากที่จะได้เข้าไปตื่นเต้นเร้าใจกันภายในคฤหาสน์หลังใหญ่แห่งนี้แล้ว Mansion 7 ยังสอดแทรกข้อคิดไว้ด้วยว่า ความมืดที่หลายคนอาจจะมองว่าอุปสรรค แต่ในอีกมุมหนึ่ง ความมืดที่สุดอาจจะพาไปพบกับแสงสวาง เพราะสติย่อมเกิดจากจิตที่มีสมาธิ อย่ากลัวที่จะเดินในความมืดเมื่อมีสติเป็นเครื่องนำทาง

 

 

ร้านรวงต่างๆ

 

       แต่แหม…เวลาที่มีความกลัวเข้าครอบงำแล้ว สติของฉันก็มักจะกระเจิดกระเจิงไปทุกที สงสัยว่าคงจะต้องมาฝึกเผชิญหน้ากับความกลัวที่นี่บ่อยๆ เสียแล้ว

       

       แต่ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะเป็นบ้านผีสิงแบบเดิมๆ ที่มีรูปแบบเหมือนเดิมตลอดตั้งแต่เริ่มสร้าง เพราะที่ Dark Mansion จะมีการปรับเปลี่ยนอยู่เรื่อยๆ โดยเริ่มแรกนั้นจะเป็นเรื่องคฤหาสน์ของท่านเจ้าคุณรัชดาพิริยโยธิน ที่ฉันเล่าให้ฟัง และได้เข้าไปสัมผัสมาแล้ว ในระยะต่อไปก็จะมีการเปลี่ยนเรื่องราวที่นำมาเล่า โดยจะเปลี่ยนแปลงภายในใหม่ ให้เข้ากับเนื้อเรื่องที่จะเล่าขาน แต่ใจความหลักของที่นี่ก็คือ การเล่นกับความกลัวของมนุษย์

       

       ถ้าหากว่าใครอยากลองเล่นกับความกลัวดูบ้าง ก็ขอแนะนำให้มาสัมผัสกันได้ที่ Mansion 7 แห่งนี้เลย แต่คงต้องเตรียมตัวเตรียมใจกันให้ดีเสียก่อน เดี๋ยวจะหาว่าฉันไม่เตือน