จุดเด่น : |
กำแพงเมืองแพร่สร้าง ปางบรรพ์ เป็นขอบเขตคูคัน โอบล้อม พูนดินก่อเป็นสัน เสริมอิฐ บรรพบุรุษเตรียมการพร้อม ปิดกั้นอันตราย นอกเมืองทิศเหนือตก ยามอุทกภัยไหลล้นฝั่ง น้ำยมเซาะตลิ่งพัง ถาโถมถั่งหลั่งเนืองนอง บ่อาจท่วมเมืองได้ น้ำไหลคืนสู่คูคลอง กำแพงเป็นเขตป้องกัน น้ำหลากเวียงพ้นภัย แม้มีไพรีรุก มิอาจบุกเข้าเมืองได้ คงยากจะชิงชัย สมัยโบราณประโยชน์มี หลักฐานประวัติศาสตร์ สมบัติชาติอย่าย่ำยี กำแพงเมืองเป็นศักดิ์ศรี คูเมืองชี้แหล่งอารยธรรม (วรพร บำบัด ......ประพันธ์)
|
รายละเอียด : |
สถานที่ตั้ง อยู่ในเขตเทศบาลเมืองแพร่ ตำบลในเวียง อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ ประวัติความเป็นมา ไม่ปรากฎแน่ชัดว่าสร้างในสมัยใด แต่มีอายุมากกว่า ๑,๑๐๐ ปี คือมีหลักฐานจากประวัติวัดหลวง ที่กล่าวว่า " ....พ.ศ. ๑๓๗๔ ท้าวพหุสิงห์ ราชโอรสของพ่อขุนหลวงพล ขึ้นครองเมืองพลทรงรับสั่งให้ขุนพระวิษณุวังไชย เป็นแม่งานทำการบูรณะอารามวัดหลวง มีการหุ้มทองพระเจ้าแสนหลวงทั้งองค์ ขยายกำแพงวัดออกไปถมกำแพงเมือง ก่ออิฐให้สูงขึ้นเพื่อป้องกันน้ำขุนยมไหลเอ่อท่วมเวียง แล้วฉลองสมโภช ๕วัน ๕ คืน..." แสดงว่ากำแพงเมืองมีการสร้างมาก่อนแล้ว ลักษณะทั่วไป กำแพงเมืองแพร่เป็นกำแพงชั้นเดียว ขนาดความสูงประมาณ ๗ เมตร ความกว้างของฐานกำแพงประมาณ ๑๕ เมตร ยาวรอบตัวเมือง ซึ่งมีรูปร่างรีคล้ายหอยสังข์ เป็นระยะทางประมาณ ๔,๐๐๐ เมตร ตัวกำแพง ภายในเป็นอิฐก้อนโบราณขนาดใหญ่และหินเรียงกันอยู่ แต่ดูจากภายนอกจะเป็นเนินดิน มีประตูเมือง ๔ ประตู ได้แก่ ประตูใหม่อยู่ทางทิศเหนือ ประตูชัยอยู่ทางทิศตะวันออก ประตูมารอยู่ทางทิศใต้และประตูศรีชุม อยู่ทางทิศตะวันตก ระยะจากประตูศรีชุมก่อนถึงประตูใหม่ประมาณ ๒๐๐ เมตร จะมีประตูเล็กๆ สำหรับนำสัตว์ออกไปเลี้ยงนอกเมือง เรียกว่า ประตูเลี้ยงม้า ทุกประตูจะมีป้อมปราการ ถัดจากกำแพงออกไปด้านนอกจะมีคูน้ำกว้างประมาณ ๒๐ เมตร ส่วนด้านในกำแพงมีถนนสายรอบเวียง ซึ่งบางช่วงเป็นถนนอยู่ บนสันกำแพง ได้แก่ถนนทางด้านทิศตะวันตกตั้งแต่ถนนศรีชุมไปจนถึงประตูใหม่ หลักฐานที่พบ ในปัจจุบันยังมีแนวกำแพงเมืองปรากฎหลักฐานให้เห็นอย่างเด่นชัดและมีความสมบูรณ์อยู่มาก ช่วยป้องกันน้ำแม่ยมท่วมในเมืองไว้ได้จนตราบเท่าทุกวันนี้ แม้ว่าบางส่วนจะถูกบุกรุกตัดเป็นถนน และมีการสร้างบ้านเรือนอาศัยอยู่บ้าง ปัจจุบันชาวบ้านเรียกคูน้ำว่า "คือเมือง" หรือ "น้ำคือ" และเรียกกำแพงเมืองว่า"เมฆ" เส้นทางเข้าสู่กำแพงเมืองแพร่ เส้นทางที่ ๑ ถนนสายเจริญเมือง เข้าทางประตูชัย เส้นทางที่ ๒ ถนนบ้านใหม่ เข้าทางประตูใหม่ เส้นทางที่ ๓ เข้าทางสามแยกบ้านในเวียงทางประตูมาน เส้นทางที่ ๔ เข้าบ้านสุพรรณ และมหาโพธิ์ ข้ามสะพานน้ำยมเข้าประตูศรีชุม ลงวันที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๔๘ ช่วยกันหักล้างถางพงพบต้นไม้ใหญ่เป็นต้นมะม่วงขึ้นคลุมพระนอนคล้ายกับร่ม ชาวบ้านเกิดศรัทธา จึงช่วยกันบูรณะ ซ่อมแซมให้สวยงามและแข็งแรง และได้ตั้งชื่อเสียใหม่ว่าวัดม่วงคำ ต่อมาพบแผ่นทองคำจารึกของพระนามพิมพาจึงได้รู้ว่าวัดม่วงคำ แต่เดิมชื่อ วัดพระนอน และสันนิฐานว่าวัดพระนอนนี้ได้สร้างสำเร็จในเดือนเก้าเหนือขึ้นสิบห้าค่ำ ทั้งนี้โดยถือเอาคำจารึกในแผ่นทองคำเป็นหลักและพระ ประธานในวิหารใหญ่นั้นชื่อหลวงพ่อ มงคลทิพณี แต่ไม่ปรากฏหลักฐานในการสร้างแต่มีเพียงตัวหนังสือ เขียนไว้ว่าวัดพระนอนเป็นโบราณสถาน มีแต่นานเนื่องมาน่านับถือมีประวัติสืบเล่าเขาเลื่องลือ ว่าได้ชื่อพระนอนก่อนเก่ากาลอนุชนรุ่นหลังฟังไว้ ขอภูมิใจซึ่งคุณค่ามหาศาลมรดกตกทอดตลอดนาน อยู่คู่บ้านเมืองแพร่แต่นี้เทอญฯ
|
เงื่อนไข : |
|
|
แสดงความเป็นเจ้าของบทความ
คนเข้าดู : 2044
โหวต : 594
|
|
Google Map
|