จวนผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ หรือ บ้านพักผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ในปัจจุบันใช้เป็นบ้านพักผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ และได้มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงบางส่วน เช่น หน้ามุขด้านหน้าให้มีบันไดขึ้นทางเดียว ในปี พ.ศ. 2538 อายุของอาคารนี้ครบ 103 ปี ยังคงงามสง่าเป็นจวนผู้ว่าราชการที่สวยงามโอ่โถงที่สุดในประเทศไทย เป็นที่เชิดชูและภาคภูมิใจของชาวเมืองแพร่เป็นอย่างยิ่ง ด้วยมีความเกี่ยวพันกับประวัติศาสตร์เมืองแพร่ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเคยเป็นอาคารที่ประทับแรม ของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินินาถ ครั้งทรงเสด็จเยี่ยมเยียนพสกนิกรชาวแพร่ในปี พ.ศ. 2501 และเป็นที่ประทับ แรมของสมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี คราวเสด็จในพิธีเปิดหอสมุดเฉลิมราชกุมารี ที่อำเภอลอง นับเป็นสิริมงคลแก่สถานที่และแก่ชาวแพร่เป็นอย่างยิ่ง
เป็นสถาปัตยกรรมไทยผสมยุโรป แต่เดิมหลังคามุงด้วยไม้ที่เรียกว่า "แป้นเกล็ด" ไม่มีหน้าจั่ว หลังคาเรือนปั้นหยา มีมุขสี่เหลี่ยมยื่นออกมาด้านหน้าตัวอาคาร หลังคามีมุขทรงสามเหลี่ยม รอบตัวอาคารประดับ ไม้แกะสลักลายสวยงาม มีบันไดขึ้นทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ตัวอาคารสร้างด้วยอิฐถือปูน มี 2 ชั้น มีห้องใต้ดิน มีประตูและ หน้าต่างนับรวมกันทั้งหมด 72 บาน ดังปรากฎในค่าวฮ่ำ (บทกลอนร้อยกรองพรรณนาชมความงามของภาคเหนือ) ของ ศรีวิใจ(โข้) ว่า "...จักอ่านนับประตู๋หับไข สะลอกนอกใน นับไปหมดเสี้ยง มีเจ็ดสิบสอง เหล็กลองกล๋มเกลี้ยง จดจันเจียงแซ่ไว้ ศรีวิจา ตั๋วข้าบาทไท้ จักใส่จื่อตั้งตั๋วลา ประตู๋หนึ่งนั้น จื่อจั้นคำขา เข้าแล้วออกมา งามเหลือเก่าน้อย ประตู๋ถ้วนสอง จื่อฟองคำสร้อย คนไหลมากอยผ่อซาว เต๋ตั๋วลา จื่อเมืองจื่นย้าว หับหนาวเมื่อยไข้หายไป..."