ตั้งอยู่ตรงปากอ่าวสมุทรสาคร ตำบลท่าฉลอม ตรงข้ามกับตัวเมือง เดินทางโดยทางหลวงหมายเลข 35 เลี้ยวซ้ายบริเวณกิโลเมตรที่ 35 เข้าถนนสุทธิวาตวิถีประมาณ 3 กิโลเมตร วัดช่องลมเป็นพระอารามหลวงได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม และเป็นวัดพัฒนาตัวอย่าง ด้านหน้าวัดมีพระบรมรูปของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวประดิษฐานอยู่ ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติที่พระองค์เสด็จพระราชดำเนินท่าฉลอม และทรงตั้งเป็นสุขาภิบาลแห่งแรกของประเทศไทย นอกจากนี้บริเวณวัดยังมีพระโพธิสัตว์กวนอิม ที่ชาวสมุทรสาครสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสที่ฉลองสิริราชสมบัติครบรอบ 50 ปี หลวงปู่แก้ว ( พระเทพสาครมุนี ) อดีตเจ้าคณะจังหวัดสมุทรสาคร และเจ้าอาวาสวัดสุทธิวาตวราราม ตำบลท่าฉลอม อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาครประวัติ พระเทพสาครมุนี เดิมชื่อ แก้ว ชนสุวรรณ เกิดวันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๔๖๖ ณ ตำบลกระสัง อำเภอกระสัง จังหวัดพระตะบอง ซึ่งขณะนั้นเป็นอาณาจักรประเทศไทย และได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดใกล้บ้านคือ วัดจำบกมาศ ตำบลกระสัง อำเภอกระสัง จังหวัดพระตะบอง เมื่อวันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๔๕๘ เพื่อศึกษาเล่าเรียนชั้นสามัญจนมีความรู้ความสามารถเขียนภาษาไทยได้คล่องแคล่ว ทั้งยังแตกฉานในภาษาขอมเป็นพิเศษ เมื่ออายุครบ ๒๐ ปี ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุวัดเดิมระยะหนึ่ง แล้วจึงย้ายมาจำพรรษา ที่วัดชำนิหัตถการ กรุงเทพมหานคร เพื่อศึกษาเล่าเรียนปริยัติธรรมกับภาษาบาลีควบคู่กับไปอย่างจริงจังพร้อมกับรับหน้าที่ครูสอนธรรมและบาลี ที่วัดชำนิหัตถการต่อไปอีกหลายปี ในปี พ.ศ. ๒๔๗๗ วัดหลักสองราษฎร์บำรุง ตำบลหลักสอง อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร ขาดครูสอนธรรม ท่านจึงมาช่วยสอนให้เป็นเวลา ๑ ปี การปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัดของท่านทำให้เป็นที่เลื่อมใสศรัทรา แก่ประชาชนในละแวกนั้นเป็นอันมาก ด้วยท่านเคร่งครัดต่อพระธรรมวินัย มีระเบียบ อัธยาศัยและมนุษย์สัมพันธ์อันดีเลื่องลือไปทั่ว ประชาชนตำบลบ้านบ่อ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร ได้พร้อมใจกันอาราธนามาเป็นครูสอนบาลี ณ วัดใหม่บ้านบ่อ ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๗๘ ถึง พ.ศ. ๒๔๘๖ พอดีทางวัดคลองตันราษฎร์บำรุง ตำบลคลองตัน อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร ขาดเจ้าอาวาสชั่วคราว ประชาชนกับพระภิกษุ สามเณร จึงร่วมใจกันอาราธนาท่านมาดำรงตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดคลองตันราษฎร์บำรุงสืบแทน ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๘๖ เป็นต้นมาและหลังจากที่ท่านได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดคลองตันแล้ว ท่านจัดระเบียบวินัยในการปฏิบัติพระภิกษุสามเณรภายในวัด พร้อมกับจัดระเบียบการปฏิบัติของประชาชนต่อวัดควบคู่กันไปด้วย ท่านจึงเป็นที่เคารพรักของชาวตำบลคลองตันทั้งปวง เนื่องจากท่านเป็นผู้ที่มีธรรมสูงเปี่ยมไปด้วยเมตตาธรรม มีความมุมานะแรงกล้า ประกอบกับจิตใจเด็ดเดี่ยวมั่นคงในการทำงาน ขยันหมั่นเพียรหาความรู้เพิ่มเติมอยู่เสมอ เคร่งครัดต่อระเบียบวินัยและกติกาของวัด อบรมสั่งสอนศิษย์กับพระลูกวัดให้ได้รับการศึกษาอย่างทั่วถึง เป็นครูสอนนักธรรมและบาลีเองโดยตลอด ดังนั้นในปี ๒๔๙๕ ทางคณะสงฆ์จึงอาราธนาท่านมาดำรงตำแหน่งที่วัดช่องลม
ผลงาน / เกียรติคุณที่ได้รับ หลวงปู่แก้วได้บำเพ็ญสาธารณะประโยชน์แก่ชุมชนในจังหวัดสมุทรสาครมากมาย เช่น สร้างสะพานสาครบุรี สร้างถนนเชื่อมต่อระหว่างตำบลท่าจีน ตำบลบางหญ้าแพรก ตำบลมหาชัย พร้อมทั้งอุปถัมภ์ปรับปรุงวัดใหญ่บ้านบ่อ วางผังก่อสร้างวัดบางหญ้าแพรก อุปการะโรงเรียนวัดช่องลม รวมทั้งร่วมทำพิธีนั่งปรก พิธีพุทธาภิเษกของวัดต่าง ๆ อีกเป็นจำนวนมาก ผลจากความเพียรพยายามพัฒนาวัดช่องลมจนเจริญรุ่งเรืองดังกล่าวนั้น จนได้รับพระราชทานพระปรมาภิไธยย่อ ภ.ป.ร. ประดิษฐานหน้าบันอุโบสถ พระราชทานฉัตร ๙ ชั้นทั้งสองข้างของพระประธานและพระราชทานนามวัดช่องลมใหม่ว่า “วัดสุทธิวาตวราราม ” หลังจากนั้นได้เลื่อนสมณะศักดิ์ท่านเป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ในราชทินนามว่า “ พระเทพสาครมุนี ” ถึงแม้หลวงปู่แก้วจะมรณภาพจากไปด้วยโรคชรา รวมอายุได้ ๗๙ ปี ๘ เดือนเศษ รวมพรรษา ๕๙ พรรษา แต่คุณงามความดีของท่านไม่เสื่อมคลาย ยังมีประชาชนมาสักการบูชา ณ วิหารพระเทพสาครมุนี ( หลวงปู่แก้ว ) ของวัดสุทธิวาตวราราม ตราบจนปัจจุบัน