วัดพระนางสร้าง
อยู่ห่างจากตัวเมือง 20 กม. ไปตามเส้นทางถนนเทพกษัตรีย์ ถึงสี่แยกอำเภอถลาง ตั้งอยู่ทางด้านซ้ายเป็นวัดที่เก่าแก่ และเป็นแหล่งประวัติศาสตร์เมืองถลางที่สำคัญแห่งหนึ่ง เพราะวัดพระนางสร้างเคยเป็นค่ายสู้รบกับพม่า เมื่อปี พ.ศ. 2328 นอกจากนี้ภายในอุโบสถเก่าแก่ยังเป็น ที่ประดิษฐานพระพุทธ รูปดีบุกที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดในโลก 3 องค์เรียกว่า “พระในพุง” หรือ “พระสามกษัตริย์” ซึ่งอยู่ในพระอุทรของพระพุทธรูปหล่อองค์ใหญ่ 3 องค์อีกชั้นหนึ่ง ในบริเวณใกล้ๆ ทางเข้าอุโบสถ เราจะพบ ศพหลวงพ่อเซี่ยม (หลวงพ่อใบ) อยู่ในตู้กระจก ซึ่งศพของท่านไม่เน่า เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ยิ่ง
ทรงบอกแก่ผู้ที่ร่วมเดินทางว่า ถ้าเราไม่สิ้นวาสนาเสียก่อนต้องไปนมัสการ พระบรมธาตุให้ได้ และถ้าเราเดินทางกลับมาโดยสวัสดิภาพ ก็จะสร้างวัดไว้เป็นที่ระลึกจึงจะไปรับอาญาที่ถูกกล่าวหาอาจจะเป็นด้วยบุญญาธิการที่เคยมีมาก่อน หรือผลอนิสงส์แห่งการยึดมั่นในพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็เป็นได้ พระนางและคณะจึงไปถึงลังกาเข้านมัสการ พระบรมธาตุด้วยความปิติและได้นำเอาโบราณวัตถุหลายอย่างกลับมาด้วย ( บางคนเล่ากันว่า นำพระพุทธรูปมามากมาย และบางคนเล่าว่าได้นำเอาต้นโพธิ์ลังกามาด้วย และบางคนก็เล่าว่านำพระบรมสารีริกธาตุมาด้วย )
ตอนที่เดินทางกลับพระนางได้นำเรือเข้าพักที่ เกาะถลางเพระเข้าใจว่าคงเป็นเกาะที่ใหญ่โต แต่เมื่อขึ้นเกาะเข้าจริง ๆ ก็ต้องผิดหวัง จึงได้สร้างวัดไว้เป็นที่ระลึกกับได้ปลูกต้นประดู่ และต้นตะเคียนไว้เป็นเครื่องหมาย เข้าใจว่าพระนางคงเอาของมีค่าทางพระพุทธศาสนาฝังไว้ในเจดีย์บ้าง แต่ตอนนั้นก็คงไม่สร้าง อะไรมากมายเพราะภูมิประเทศเดิมเป็นป่าใหญ่ (ต้นตะเคียนและต้นประดู่ได้ถูกโค่นเพื่อสร้างโรงเรียนเมื่อ 30 กว่าปีมาแล้ว)
เมื่อสร้างวัดเรียบร้อยจึงออกเดินทางต่อไป จนมาถึงนครแม้จะรู้ว่ากำลังจะไปรับความตายแต่พระนางก็มีความสุข ปลื้มปิติเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้สร้างบุญกุศลอันยิ่งใหญ่เอาไว้ แต่เมื่อมาถึงชานเมืองพระนางก็ต้องได้รับความเสียพระทัยเป็นอย่างยิ่งเพราะในขณะที่พระนาง ไม่อยู่ได้เกิดการแย่งชิงพระราชสมบัติพระสวามีได้ถูกประหารชีวิต พระนางจึงไม่เข้าไปในนคร
ด้วยเหตุนี้พระนางจึงได้พ้นโทษจากพระสวามี พระนางได้กล่าวกับผู้ติดตามว่า ในชีวิตจะต้องสร้างวัดวาอารามให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทุกคนที่ติดตามต่างสาธุกับพระนางด้วย ดังนั้นจึงได้นำวัตถุสิ่งของที่นำมาจากลังกาจะนำไปสร้างวัด แต่เมื่อผู้ครองได้รับทราบเรื่องนี้จึงให้ทหารมานำนางไป ประหารชีวิต พร้อมทั้งแย่งชิงของมีค่าทางพระพุทธศาสนาไปไว้ในนคร จะด้วยผลบุญที่พระนางสร้างไว้ เมื่อเพชรฆาตลงดาบตัด พระเศียรออกนั้น โลหิตซึ่งพุ่งออกมามีสีขาวประชาชนที่ทราบเรื่องนี้จึงขนานนามว่า "พระนางเลือดขาว" และวัดต่าง ๆ ที่พระนางได้สร้างขึ้นจึงมีชื่อของพระนางเป็นส่วนมาก