พระราชวัง ซิตาเดล

ฮาลองเบย์

1000 ฮานอย

HO - CHI - MINH

ถนนคนเดินกลางคืน

โบสถ์เก่า ย่าน old quated

การเดินทางครั้งนี้เดิน เป็นการเดินทางแบบแบคแพค คือเดินทางโดยรถทัวร์ จากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง ซึ้งการเดินทางแบบนี้จะมีความลำบากอยู่คอนข้างมาก ซึ้งเราจะไม่สามารถรู้ได้เลยว่า รถแต่ละที่จะไปถึงปลายทางเมื่อใด

 หรือเมื่อไปถึงปลายทางแล้วจะมีรถต่อหรือไปทั้นเวลารถต่อหรือไมซึ้งต้องวัดดวงกันเอาแต่การไปแบบนี้จะได้ประสบการมากและจะได้เพื่อนแท้กลับมาเป็นอย่างมากครับเพราะแต่ละคนจะต้องช่วยกันดูแลซึ้งกันและกันแต่ละคน

ดังนั้นผมจะเริ่มการไปเที่ยวเลยนะครับ

วันแรกของการเดินทาง 2/10/53

เดิน ทางโดยรถโดยสารจากหมชิดใหม่ กรุงเทพฯ - มุกดาหาร การเดินทางตรงนี้แนะนำเดินทางกลางคืนก่อนไป1วันจะดีมาก เพราะว่าจะได้ไม่ร้อน และนอนหลับสะบายมาก เนื่องจากว่าจะถึงมุกดาหารใช้เวลา 1คืนพอดีครับ เพราะรถออกจากกรุงเทพฯ 2ทุ่มไปถึงมุกดาหาร 6โมงเช้าพอดีครับ

จุดแวะ พักรถของรถทัวร์ กรุงเทพฯ - มุกดาหาร (อาหารรวมในค่ารถแล้วครับทานได้คนละอย่างครับมีข้าวต้มจะได้กับข้าว2อย่า และก็มีก๋วยเตี๋ยว

รูปนี้สงสัยพี่ผมจะหิวครับ

หลังจากมาถึงท่ารถที่มุกดาหารแล้วเราก็รอ 7.45 เพื่อให้คนขายตั๋วรถที่จะพาเราเข้าไปที่ประเทศลาว โดยขึ้น รถ มุกดาหาร - สะหวันนะเขต ค่ารถจากมุกดดาหารไปสะหวันนะเขต ราคาอยู่ที่45บาทครับ โดยเราจะต้องลงจากรถ ตอนอยู่ที่ชายแดนเขตมุกดาหารเพื่อลงไปทำเรื่องผ่าแดน พอทำเสร็ดก็ให้ขึ้นรถคันเดิมครับ เสร็ดแล้วรถจะพาไปที่ด่านสะหวันนะเขต เพื่อทำเรื่องเข้าประเทศลาว ครับสำหลับคนไทย พอไปถึงด่านี้ให้ถามเจ้าหน้าทีของประเทศลาวเลยครับ เขาจะมีช่องให้คนต่างชาติโดยเฉพาะครับ ค่าผ่านแดนนี้คนละ40บาทครับ พอทำเรื่องผ่านแดนนี้เสร็ดก็ให้ขึ้นรถคันเดิมครับเขาจะไปส่งที่ท่านรถของประเทศลาวครับ เพื่อที่เราจะไปหารถต่อเพื่อไปชายแดนลาวบาวครับ

รถที่จะไปชายแดนลาวบาว มี2เวลาครับ คือทีตอนเที่ยงตรงกลับ ตอน4ทุ่มครับถ้าไปตอนเที่ยง จะไปถึงชายแดนลาวบาว ประมาณ5โมงเย็นครับ (ถ้ารถไม่เสียหรือรถไม่ต้องไปส่งของที่ไหนนะครับ) ส่วนตอน4ทุ่ม รถจะไปถึงตอนต3ครับจะต้องนอนบนรถเพื่อรอชายแดนเปิดตอน 7.30 ครับ ตรงนนี้ เราจะมีเวลาเหลือเพื่อรอรถไปลาวบาวครับเลย ไปหาอะไรกินกันในตลาด สะหวันนะเขตครับ โดยเราหาอะไรกินง่ายๆเช่นกินเฟ่อ หรือข้าวราดแกงครับ เฟ่อราคาอยู่ที่40บาทต่อชามครับส่วนข้าวราดแกง อยู่ที่30บาทต่อจานครับราคาอย่าคิดว่าแพงครับเพราะราคานี้ปริมานเยอะมากครับ

พอชายแดนเปิด เราก็ต้องทำเรืองผ่านแดนออกจากประเทศลาว เพื่อเขาประเทศเวียดนามต่อ โดยค่าผ่าแดนออกจากลาวต้องเสียอีกคนละ 40บาทครับ แต่ตรงจุดนี้ถ้าเก็บใบเหลืองที่ได้จากตอนเขาลาวมาเอามาใช้ตรงจุดนี้ได้ด้วยครับ

มีคันเดียวในประเทศลาวที่ผมเจอนะครับ

ปลาไหล IN The Bus

แต่จริงๆๆแล้วไม่น่าเสียนะครับเพราะ มีคนเกาหลีไปโว๊ยกะ ตม. ประเทศลาวว่า เขาเข้ามาก็ตองเสียออกไปยังต้องเสียอีกหรือ ตม. ลาวเลยไม่เก็บเงินเขาครับ พอทำเรืองออกจากลาวเสร็ดก็ต้องขึ้นรถคันเดิมเพื่อไปยัง ด่านตรวจคนเขาเมืองที่ประเทศเวียดนามต่อ พอมาถึงด่าตรวจคนประเทศเวียดนาม ทุกคนต้องลงจากรถเพื่อไปทำเรื่องที่ ตม. เวียดนามต่อครับ ขั้นต้อน มีอยู่ว่า ก่อนจะเขาไปยัง ตม. เวียดนามนั้นจะมี ตม. เวียดนามตรวจพราสปอสก่อน ชั้น1 ก่อนจะเข้าไป ตม. พอไปถึงด่า ให้สังเกตุทางซ้าย จะเป็นของกระจกให้เราไปขอใบเพื่อมาเขียน ใบนั้นเหมือนจะเป็นการถามว่าเขามาประเทศเขาทามไมและอยู่กี่วันประมาณนนี้ครับ พอมาถึงด่าน เวียดนามอย่าตกใจนะครับเพราะตรงนนี้จะวุ่นวายมาก คือคนเวียดนามจะพยายาม แย่งกันเขาประเทศเขาอะครับ โดยทางด่าน ตม. เวียดนาม จะเอาคนของเขาเข้าประเทศก่อน คือเขาจะไม่สยใจคนต่างชาติอย่าเราเลยอะครับ  ถึงแม้นเราจะเขาคิวเป็นระเบียบของเราแล้วก็ตามคนเวียดนามก็ยังมาแซงเราได้หน้าตาเฉยมากอะตรงนนี้ต้องทำใจกันนะครับถ้าเจอแบบนี้อะครับ พอทำเรืองที่ด่านเสร็ดเราจะต้องเดินมารอรถคันเดิมของเรา (ตรงจุดนี้ไม่มีรูปนะครับเนื้องจากฝนตกหนักมาจนน้ำถ่วมที่ด่านและไฟที่ด่านก็ดับด้วย)

ตรงที่เรารอถนั้น จะมีคนเวียดนามจะมาถามว่าจะแลกเงินไม อันนี้ตามสะดวกของแต่ละคนครับถ้าแลกจาก กรุงเทพมาไม่พอมาแลกที่นี้ได้ครับ มันจะ + - เล็กน้อยครับคือตรงจุดนนี้แลกได้ แต่เงินที่แลกจากตรงนนี้ ต้องใช้ให้หมดที่เวียดนามนะครับ เพราะที่กรุงเทพฯไม่รับซื้อเงินเวียดนามที่เป็นกระดาษ เหมือนแบงค์ทั้วไปของเราอะครับ เขาจะรับซื้อเงินเวียดนามที่เป็นแบงค์มันครับ (กลุ่มเพื่อนที่ไปแลกกักซะเยอะเลยใช้ไม่หมดกลับมาเอาเงินไปขายเขาไม่รับซื้อ T^T เงินจมอยู่หลายร้อยเลยครับ) และตรงจุดนี้เขาจะมีขายซิมโทรศัพประเทศเวียดนามด้วยครับถ้าท่านใดต้องการโทรกลับมายังประเทศไทยหรือโทรไปต่างประเทศใช้ซิมเวียดนามถูกกว่าครับเพียงนาทีละ5บาทนิดๆๆเองครับ พอรถเรามาก็ขึ้นคันเดิมอย่าผิดคันนะครับเพราะด่านนี้ จะมีรถไปเว้น้อยมาก รถคันที่เราขึ้น จะแวะพัก1ครั้งที่ร้านข้าวในประเทศเวียดนาม ท่านใดหิวก็ทานได้แต่กลุ่มผมไม่ได้ลงไปทานกันเนี่องจากต้องเฝ่ากระเป๋า เมื่อท่านเข้ามาประเทศนี้สิงที่ต้องระวังนะครับ คนเขาโกงเก่่ง และกระเป๋าต้องระวังเลยครับของอยาจหายได้ ต้องดูดีๆๆนะครับ รถคันที่เรานั้งมาเขาจะแวะแค่ครั่งเดียวนะครับ ควรเข้าห้องน้ำกันให้เรียบร้อยตรงที่เขาแวะนะครับเพราะพวกผมเจอกันมาแล้วเกือบโดนทึ้งกลางทางครับดีที่ผมและเพื่อนอีกคนยังอยู่บนรถเพื่อเฝ่าของ จึงตะโกนบอกให้เขาหยุดรถก่อนได้อะครับไม่งั่นได้เควงกันแน่ ไหนจะของเอ่ยอีก ถือว่าเป็นโชคดีที่มีคนอยู่บนรถการไปแบบนี้ต้องมีการเสียสละกันบ่างอดทนกันบ้าง รถเราจะไปถึง เว้ ประมาณ เที่ยงนะครับถ้าจำไม่ผิดนะครับ โดยรถจะไปส่งเราที่ท่ารถ เว้ ครับ พอเรามาถึงเราควรไปจองตั๋วรถเพื่อไปฮานอยก่อนเลยครับที่ท่ารถเว้นั้นแหละครับเพื่อจะได้ไม่เสียเวลาเที่ยวเราที่เว้ครับเพราะเราจะพักที่เว้ 1คืนก่อนออกเดินทางต่อไปที่ฮานอย โดยที่ขายตั๋วรถไปฮานอยนะครับจะอยู่ทางซ้ายจะเป็นห้องใหญ่สุดเลยครับ โดยค่ารถเราไปฮานอย อยู่ที่คนละ 15$ นะครับส่วนค่ารถท่าเดินทางจากลาวบาวมาเว้ คนละ280บาทครับค่ารถมาเว้แล้วแต่เลยครับว่าท่านใดจะต่อเก่งอาจได้ถูกกว่าพวกผมก็ได้นะครับ พอเราซื้อตั๋วรถไปฮานอยเสร็ด เราก็เริ่ม หาที่พักกันเลยครับโดยเลือกเอาแถว พระราชวัง ซิตาเดล โดนพวกผมนั้น จะเรียกแท๊คซีเอากันครับ ค่าแท๊คซี่อยู่ที่ 4 $ ครับพาเราไป โรงแรม TRAN LY

โรงแรมทุกโรงแรมในเวียดนามใช้เน็ตฟรีครับ ประเทศเขาเสรีเรื่องเน็ตครับ แต่บางเครืองไม่สามารถเล่นเฟสบุ๊คได้นะครับอิอิ

พอพวกเรามาถึงโรง แรม ได้ก็กระจายของกันเลยครับเพราะมาช่วงก่อนข้ามแดน พวกเราเดินตากฝนกันครับเดินตากฝนกันตั้ง2กิโลแหนะฝนไม่น่าตกเลย แต่โรงแรมนี้ดีครับมีบริการซักแห้งแต่ไม่รีดนะครับ ค่าซักอยู่ที่ 1กก.ในราคา 21000 ด่อง หรือเท่ากับกิโล 32 บาทไทย ตอนนั้นพวกผมส่งซักไปทั้งหมด7 กิโลครับ เนื่อจากเราเดินทางจากลาวบาวแต่เช้า เลยครับ เลยไม่ได้ทานอะไรกัน เมื่อมาถึงโรงแรม เลยสังอาหารทานกันอาหารที่สังก็มี ข้าวผัดไข่ เฟ่อเนื้อวัว(เวลาทานอะไรที่เวียดนามควรถามคนพื้นที่ก่อนว่านั้นคือเนื้อสุนัขหรือไม สุนัขภาษาเวียดนามเรียกว่าทิจ้อนะครับ) แล้วก็มีแพนแค้ก แพนเค้ก เขาแผ่นใหญ่มากเลยอะครับ

แพนเค้กแต่และชินราดด้วยอะไรคงจะเดากันไม่ยากนะครับ พอทานเสร็ดก็อาบน้ำและพักผ่อนกันซักพักก่อนออเดินเทียวยามราตรีทีเว้ ครับเว้กลางคืนไม่คอยมีอะไรมากครับ ส่วนใหญ่ก็ร้านอาหารทั่วไปอะครับ และก็ร้านขายของขายทัวร์ไรประมาณนนี้ครับ เว้ นี้เมื่อก่อนเคยเป็นเมืองหลวงเก่าของประเทศเวียดนามนะครับ ดังนั้นยังคงมีกลิ่นไอความเป็นโบราณอยู่มากบ้านเรื่อนก็ยังเป็นทรงแบบเก่าอยู่ครับ

พอพวกเราเดินจนเหนื่อยซัพพัก ก็เลยหาอะไรทานกัน พอดีตรงข้ามที่เราพักมีร้านอาหารอยู่ร้านนึงน่าทานมาก เลยตกลงกันว่าลองทานร้านนี้ดูอาหารก็เป็นจำพวกอาหารเวียดนามอาหารไทยก็มีนะครับบองอย่างอะครับเท่าที่เห็นนี้คือต้มยำกุ้ง แน่นนอนเป็นอาหารที่ดังไปทั้วโลกแล้ว แล้วก็มีอาหารอิตาลี ก็จะมีพิซ่า แทต่ที่ผมกินกันก็ตามรูปเลยครับ อิอิ ราคาอาหารไม่แพงเท่าไรครับบางอย่างถูกว่าบ้านเราซะอีกนะครับ

ปลาหมึกจานนี้อร่อยมากครับ เลยสั่งซะตั้ง2จานอะครับ

นี้ขนาดบอกอย่าพึงนะครับจะขอถ่ายรูปพวกพี่ๆๆผมยังเตรียมความพร้อมจะทานซะขนาดเลยอะ

เวลาผ่านไป1นาทีครับเลยเป็นสะภาพนี้อะครับ ปลาหมึกหายแต่ผักอยู่ครบเลย 555555

เบียเวียดนามครับ รสชาติคลายๆลีโอบ้านเราอะครับแต่ขมกว่านะ แล้วแต่คนชอบอะครับ

ส่วนผมขอเป็นกระป๋องนี้ดีกว่ารสชาติคุนเคยอะอิอิ

พอทานกันเสร็ดเราก็เข้านอนพักผ่อนกันที่โรงแรมครับ การเดินทางจากกรุงเทพฯ - เว้รวมแล้วก็ 2วัน 2คืนและครับ ส่วนวันที่ 3 เราจะพาไปดูพระราชวัง ซิตาเดล กันครับ

วันที่3 พระราชวัง ซิตาเดล

วันนี้เราเริ่มออกเดินทาง สายกันหน่อยครับ เพราะว่าเหนือยจากการเดินทางกันมาอะครับ วันนี้เราเลยเริ่มออกเดินทางไปพระราชวังซิตาเดลกันก็เกือบเทียงแล้วครับการเดินทางไปพระราชวัง ซิตาเดลนั้นเราเดินกันไปครับสนุดกีไม่ไกลด้วยจากที่เราพักไปพระราชวังก็ประมาณ 2 กิโลกว่าๆๆอะครับโดยเดินทางจากหน้าโรงแรมที่เราพักไปทางซ้าย

 ผ่านสะพานข้ามแม่น้ำ  1 สะพาน พอถึงสะพานที่ 2 ให้เราเลียวขวาเดินไปตามทางสะพานข้ามแม่น้ำนั้น วิวบนสะพานสวยมากครับ

 พอเราไปถึงปลายสะพานให้เราเลียวซ้ายครับ มันจะมีทางม้าลายให้ข้ามทางม้าลายนั้นไปครับก็จะเห็น ธงชาติเวียดนามครับ ตรงจุนั้นคือพระราชวังซิต้าเดลครับ พอเราข้ามทางม้าลายเสร็ด จะเป็นเป็นซุมประตูครับทางนี้เดินระวีงรถกันหน่อยนะครับเพราะบงจังหวะรถขอนข้างเยอะครับ

หากใครเดินทางมานานต้องการเข้าห้องน้ำเมือเราข้ามถนนมาเสร็ดจะมีห้องน้ำอยู่ครับค่าเข้าห้องน้ำอยู่ที่ 1000ด่อง ครับหรือ ประมาณ 1.6บาท บ้านเราอะครับ โดยห้องน้ำจะมีป้ายเขียนไว้ว่า WC อะครับ พอเดินมาอีกหน่อยจะมีร้านขายของที่ระลึก ร้านนี้ถูกครับ ซื้อได้ จ่ายเป็นเงินไทยได้ต้วยอะครับ เพราะผมซื้อหมวกฟางแบบเวียดนามไปฟากเพื่อนที่กรุงเทพฯครับ ราคาหมวกอยู่ที่ใบละ25บาทครับเพราะ ผมจ่ายเป็นเงินไทยครับเลยไม่รู้ราคาด่องอะครับ ราคานี้ผมซื้อ2ใบนะครับอิอิ ไงลองต่อราคากันดูครับ

พอออกจากอุโมงนี้แล้วเดินนไปทางซ้ายครับอีกประมาณ 300 เมตร ครับ ก็จะเจอทางเข้าพระราชวังซิตาเดล อยู่ทางขวา โดยระหว่างทางจะมีสามล้อถีบรับจ้าเพื่อท่านใดอยากชมรอบๆพระราชวังซิต้าเดลรอบนอกโดยไม่ต้องเดินก็ได้นะครับ ค่าเข้าพระราชวังซิต้าเดลอยุ่ที่80บาทครับ

ที่ขายบัตรเข้าชมอยู่ซ้ายสุดนะครับ

รูปนี้เลียนแบบเขามาอะอิอิ ไม่ได้เอารูปเขามานะครับ ถ่ายเอง ไม่ได้ละเมิดใครนะคร๊าบบบอิอิ

ห้องข้างหลังผมนี้ไม่สามารถถ่ายรูปได้นะครับ ภายในจะเป็นเก้าอี้พระที่นั้งของราชวงค์ ของเวียดนามอะครับ