วัดตักซัง หรือ อ่านว่า ทักซัง มีชื่อเสียงรู้จักกันแพร่หลายไปทั่วโลก รวมถึงเป็นวัดที่โด่งดังที่สุดในภูฏานอีกด้วย วัดนี้มีชื่ออีกชื่อหนึ่งว่า “วัดถ้ำเสือ” เป็นวัดที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในภูฏาน ไปกลับประมาณ 4 ชั่วโมง ต้องอาศัยการเดินเท้าขึ้นไป หรือหากเดินกันไม่ไหวก็ใช้วิธีการขี่ม้า ค่าขี่ม้าก็ราว 500 นู หรือ ประมาณ 300 กว่าบาท วัดทักซังในสายตาของเราในเวลานี้ดูโดดเด่นออกมาจากหินผาที่ตัดตรง คล้ายกับว่าวิหารแห่งนี้ล่องลอยได้ในอากาศ
วัดทักซังประกอบไปด้วยอาคาร 13 หลัง ตั้งไต่ระดับความสูงลดหลั่นคล้ายซ้อนกันอยู่อย่างหมิ่นเหม่จนแทบจะมองไม่เห็นว่าจะมีทางใดในการเดินขึ้นไปสู่วัด เล่ากันว่าวัดแห่งนี้ ท่านคุรุรินโปเชเคยเข้ามาบำเพ็ญญาณบารมี ส่วนท่านซับดรุง งาวัง นัมเกล ก็เคยเข้าไปเยี่ยมวักแห่งนี้เช่นเดียวกัน … วัดแห่งนี้จึงได้รับการเลื่อมใสของชาวพุทธภูฏานเป็นอย่างมากในการเดินทางมาสวดมนต์ภาวนาปฏิบัติธรรม วัดทักซัง เคยถูกไฟไหม้ทำลายลงถึง 2 ครั้งในปี พ.ศ.2494 และ พ.ศ.2541 จนสิ่งก่อสร้างหลักและเครื่องตกแต่งภายในวัดเสียหายไปจนเกือบหมด แต่ก็ได้รับการฟื้นฟูโดยรัฐบาลภูฏานให้กลับคืนสภาพสวยงามดังเดิม และมีการบูรณะครั้งใหญ่ในปี พ.ศ.2543
ที่มาของวัดทักซังนั้น ชาวภูฏานเชื่อกันว่า ในครั้งแรกที่มีการสร้างวัดนี้ ท่านกูรูริมโปเช (แปลว่า อาจารย์ใหญ่ผู้ล้ำเลอค่า) ผู้ซึ่งชาวภูฏานเชื่อว่าเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ 2 ได้ขี่นางเสือตัวหนึ่งและเหาะด้วยญานบารมีมาจากทางภาคตะวันออกของประเทศ ขึ้นมาบำเพ็ญญาณในถ้ำของวัด จนเมื่อครบ 3 เดือนท่านจึงออกมาเพื่อแสดงธรรมแก่ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในหุบเขาพาโร ต่อมาถ้ำนี้กลายเป็นสถานที่สำหรับการเจริญสมาธิ และบำเพ็ญเพียรของพระลามะอีกหลายรูป
ที่วัดมีเวลาเปิดปิดพักกลางวันด้วย ระหว่าง 13.00-14.00 น. หากได้มาภูฏานแล้วได้มาพิชิตวักตักซังก็นับได้ว่าเป็นมงคลกับชีวิตและได้พิสูจน์สมรรถภาพของร่างกายความแข็งแรงไปด้วยพร้อมกัน ที่วัดตั้งอยู่ที่ระดับความสูงประมาณ 3,000 เมตรจากระดับน้ำทะเลคนพื้นราบอย่างเราอาจจะเหนื่อยง่าย เดินไปเรื่อยๆ ทางเดินขึ้นไปวัดไม่ชัน เดินไปเรื่อยๆ ได้ทักทายชาวต่างชาติระหว่างทางมากมายเป็นมิตรภาพดีๆระหว่างการเดินทาง