เริ่มเลี้ยงควายอย่างเป็นระบบฟาร์ม ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2546
ที่ “มูร่าห์ฟาร์ม” ตำบลหนองไม้แก่น อำเภอแปลงยาว จังหวัดฉะเชิงเทรา
ซึ่งห่างจากกรุงเทพฯ เพียง 120 กิโลเมตรเท่านั้น
โดยการรวมกลุ่มของ “วิสาหกิจชุมชนกลุ่มผู้เลี้ยงควายนม”
จากการให้คำแนะนำของ ศาสตราจารย์ มณีวรรณ กมลพัฒนะ
ศูนย์วิจัยชีววิทยาด้านการปศุสัตว์ คณะสัตวแพทย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
อีกทั้งยังเป็นแหล่งเรียนรู้การเลี้ยงควาย ในเชิงวิทยาการอย่าเป็นระบบ
โดยเรียกกันธรรมดาว่า “โรงเรียนเลี้ยงควาย”
มูร่าห์ฟาร์ม ได้ขยายพันธุ์และปรับปรุงพันธุ์ควายมูร่าห์ มาเป็นเวลาหลายปี
จนกระทั่งได้ผลผลิต “นมควาย” มากเพียงพอแก่การจำหน่าย
ในเดือนธันวาคม 2550 ร้าน “มูร่าห์คาเฟ่แอนด์บิสโทร”
จึงได้เกิดขึ้นที่หมู่บ้านสัมมากร ถนนรามคำแหง 112
ในกรุงเทพฯ นี่เอง
"มูร่าห์คาเฟ่"
มีความตั้งใจที่จะนำเสนอ นมควายมูร่าห์ ให้ผู้บริโภคได้รู้จัก
นมสดที่จำหน่ายใน ร้านมูร่าห์คาเฟ่ แอนด์ บิสโทร
จากการศึกษางานในต่างประเทศอยู่ 2 ปี โดยได้ศึกษางาน
การเลี้ยงควายนมจากประเทศ อินเดีย อิตาลี บัลแกเรีย บราซีล และจีน
เมื่อเริ่มรีดนมจึงอยากนำเสนอสิ่งดีๆ ให้แก่ผู้บริโภค
จึงได้เปิดหน้าร้านเป็นลักษณะฟาร์มเอาท์เลดขึ้น
หากใครเคยเดินทาง ไปต่างประเทศในแถบยุโรปตะวันออก
อินเดีย หรืออิตาลี อาจจะคุ้นเคยกับนมควายมูร่าห์บ้าง
เช่น ในประเทศอินเดีย
นมควายมูร่าห์เป็นที่นิยมมากกว่านมวัว เนื่องจากสารอาหารในน้ำนมที่สูงกว่า
และมีความเข้มข้นมากกว่านมวัว อีกทั้งยังไม่มีกลิ่นคาว
จากการเปรียบเทียบ สารอาหารในน้ำนมพบว่า
นมควายมูร่าห์จะมีสารอาหารมากกว่านมโค และมีสีขาวเนียน
ชวนน่ารับประทานกว่า Butter Fat ในนมควายจะเป็นสองเท่าของนมโค
ในขณะที่ค่าคลอเลสเตอรอลต่ำกว่า และโปรตีนสูงกว่านมโค และนมแพะ
ไม่รวมถึงธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส วิตามินเอ
และสารต้านอนุมูลอิสระ (Natural Antioxidant) ที่สูงกว่า
เหมาะสำหรับผู้ที่รักสุขภาพและผู้ที่แพ้แลคโตสในน้ำนมโค
ข้อมูลและรูปภาพจาก 1081009.tourismthailand.org