สมัครสมาชิก   |   เข้าสู่ระบบ
index


ไปงานเทศกาล

แสดงบทความทั้งหมด
เทศกาลประจำปี
ข่าวประชาสัมพันธ์
5 ร้านอาหาร Delivery
mk-gold-บุฟเฟ่ต์ mk gold บุฟเฟ่ต์
สุกกี้เอ็มเค + ติ๋มซำ บุฟเฟ่ต์ มีกว่า 90 รายการอาหาร ภายใน 1...
pizza-company pizza company
สั่งซื้อ Pizza Company ทางอินเตอร์เน๊ต ง่ายมากเพียงแค่คลิ๊กท...
โออิชิ-เดลิเวอรี่ โออิชิ เดลิเวอรี่
โออิชิ เดลิเวอรี่...
ห้องอาหารฮั่วเซ่งฮง ห้องอาหารฮั่วเซ่งฮง
ฮั่วเซ่งฮง ภัตตาคารจีน เปิดบริการมายาวนานกว่า 35 ปี...
5 บทความยอดนิยม
ถนนกับการท่องเที่ยว ถนนกับการท่องเที่ยว
ประโยชน์แห่งความสุขของการท่องเที่ยว ไม่ได้มีแค่ ที่จุดหมายปล...
โดย: nongview
ท่องเที่ยว-ทั่วไทย ท่องเที่ยว ทั่วไทย
ท่องเที่ยว ทั่วไทย ชายหาด ทะเล ป่าเขา น้ำตก อุทยานแห่งชาติ ถ...
โดย: nongview
จุดชมวิวทั่วไทย จุดชมวิวทั่วไทย
รวมภาพจุดชมวิวทั่วไทย...
โดย: nongview
เที่ยวเกาะเสม็ด เที่ยวเกาะเสม็ด
เกาะเสม็ดเป็นเกาะที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพ หาดทรายนี่ขาวสะอาด...
โดย: thejuk
หิ่งห้อย หิ่งห้อย
แมลงมีแสงที่ก้น แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศน์มี 4 ระย...
โดย: nongview
ไปไหนดี
ไปไหนดี    >   ทัวร์ภูฏาน   >   
เจ้าของบทความ gplace    Share
ทัวร์ภูฏาน    ขื่อ : ทัวร์ภูฏาน

   

   ที่ตั้ง :

   URL : http://gplace.com/ทัวร์ภูฏาน

   ประเภท :

   ราคา :

   เบอร์โทร : 02-1641005

  จุดเด่น :

โดยสายการบินประจำชาติดรุ๊คแอร์ (KB)
* นอนพาโร 2 คืน เพื่อขึ้นวัดถ้ำเสือ (วัดตั๊กซัง)แต่เช้า ท่านจะไม่เหนื่อยและ รีบจนเกินไป
* เรานิมนต์พระรินโปเชให้ศีลและพรแด่ท่านพร้อมทั้งรับของที่ระลึกจากมือรินโปเช
(รินโปเช คือพระที่ได้รับการพิสูจน์ว่ากลับชาติมาเกิดและได้รับความเคารพนับถือ
เป็นอย่างมากจากชาวภูฏาน)
* รถขนกระเป๋าบริการและเช็คอินให้ก่อนโดยที่ท่านไม่ต้องรอ
* ระบำพื้นเมืองและระบำหน้ากาก
* ค็อกเท็ลปาร์ตี้สำหรับคืนสุดท้าย
* รวมค่าทิป ไกด์ คนขับรถ รถกระเป๋า และเด็กขนกระเป๋าท่านละ 30 USD
* อาหารเสริมจากเมืองไทยอย่างน้อยมื้อละ 1 อย่าง
* อาหารแต่ละมื้อจะมีเนื้อสัตว์อย่างน้อย 2 อย่าง ยกเว้นที่วัดชิมิและบนเขาตั๊กซัง
* ทุกมื้อเช้าเราจัดเตรียมข้าวต้มและเครื่องเคียงสำหรับท่าน
* น้ำดื่มวันละ 3 ขวด
* บริการชา กาแฟหลังอาหารเที่ยงหรือเย็นวันละ 1 ครั้ง
* บริการอาหารไทยจากพ่อครัวชาวไทยที่ร้าน “สุโขทัย”
* ถ่ายรูปทำแสตมป์ที่ระลึกสำหรับทุกท่าน
* รวมค่าม้าขึ้นวัดตั๊กซังจนถึงจุดชมวิว


  รายละเอียด :

วันแรก (1) กรุงเทพฯ – พาโร – ทิมพู
04.30 น. พร้อมกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 ประตูทางเข้าที่10 เคาน์เตอร์ W สายการบินดรุกแอร์ DRUK AIR (สายการบินแห่งชาติภูฏาน)
06.50 น. เดินทางสู่ภูฏาน โดยสายการบินดรุกแอร์ เที่ยวบินที่ KB131
10.00 น. ถึง สนามบินพาโร เมืองที่ตั้งท่าอากาศยานของภูฏาน (เวลาท้องถิ่นภูฏาน ช้ากว่าที่ประเทศไทย 1 ช.ม.) ชมอาคารที่ พักผู้โดยสาร ซึ่งออกแบบด้วยศิลปะสถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของภูฏาน เป็นอาคารไม้ ประดับภาพจิตรกรรม และภาพแกะสลักวิจิตรบรรจง เข้าไม้โดยไม่ใช้ตะปู หลังคาใช้ไม้แผ่นวางซ้อนกัน แล้วใช้ก้อนหินทับป้องกันลมพายุ พัดปลิวจากนั้นชม พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเมืองพาโร (Paro National Museum) ตั้งอยู่บนอาคารทรงกลม ซึ่งเคยเป็น “หอสังเกตการณ์รบ” หรือ “ตาซอง” (Ta Dzong) มีอายุ เก่าแก่กว่า 350 ปี สร้างไว้ตั้งแต่ พ.ศ.2192 (ร่วมสมัยพระเจ้า ปราสาททอง) ก่อนดัดแปลงเป็นพิพิธภัณฑ์ ใน พ.ศ.2511 โดยกษัตริย์ จิกมี่ ดอร์จิ วังชุก รัชกาลที่ 3 ผู้ได้รับการยกย่อง เป็น “บิดาแห่งภูฏานยุคใหม่” ชม อลังการแห่งผ้าพระบท (ตังกา) แผนภูมิศักดิ์สิทธิ์ของ ชาวพุทธวัชรยาน (มันดาลา) ตลอดจนอาวุธ เครื่องแต่งกาย เครื่องดนตรีคัมภีร์พระไตรปิฎกรวมถึงแสตมป์ หรือดวงตราไปรษณีย์ที่ทำให้ภูฏานขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่ออกแบบแสตมป์สวยที่สุด จากนั้นนำท่านชม “พาโร ซอง” Paro Dzong คำว่า “ ซอง” สถานะเป็นทั้งป้อมปราการสำนักบริหาร ราชการเมือง อารามหลวงและสนามหลวง กล่าวได้ว่า “ซอง” คือจิตวิญญาณของชาวภูฏาน ซึ่งรวมประเทศได้จากการรวม “ซอง” ต่างๆ ให้เป็นหนึ่งเดียว ชม พาโรซอง ภายนอก จะเห็น สะพานไม้ข้ามลำน้ำพาโรสู่ตัวซองอันงามสง่า
เที่ยง รับประทานอาหารอาหารกลางวัน ณ โรงแรม Olathang
จากนั้นเดินทางด้วยรถโค้ช สู่ ทิมพู (Thimphu) ระยะทาง 65 ก.ม. (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.5 ช.ม.) ถึง ทิมพู นครหลวงของภูฏาน ที่ระดับความสูง 2,350 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง (ดอยอินทนนท์ 2,565 เมตร เมืองลี่เจียง 2,200 เมตร จงเตี้ยน 3,300 เมตร) จากนั้น นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก ณ โรงแรม ได้เวลานำท่านออกเดินทางสู่ จุดชมวิวเมืองทิมพู ชม “ลุงตะ” หรือ ธงพระบัดพลิ้วเหนือลำน้ำทิมพู ซึ่งไหลขนาบ ข้าง “ทิมพู ซอง” ที่เป็นทั้งสำนักพระราชวัง และทำเนียบรัฐบาล ระหว่างทางแวะถ่ายรูป วัดตัมโช (Tamchoe Monastery) ซึ่งมีสะพานเหล็กทอดไปอีกฝั่ง เป็นวัดที่สร้างโดยพระที่เดินทางมาจากทิเบตต้องการมาหาแร่เหล็ก และท่านคิดค้นการทำโซ่เหล็กเป็นครั้งแรก ซึ่งท่านได้เห็นในพิพิธภัณฑ์ที่พาโรด้วย และแวะถ่ายรูปกับเจดีย์สามองค์ ซึ่งเป็นเจดีย์แบบทิเบต ภูฏาน และเนปาลที่ ด่านชูซอม (Chuzom) ถึงเมือง ทิมพู นำท่านไป สวนสัตว์ ชม “ทาคิน” เป็นสัตว์พิเศษ ที่มีลักษณะผสมระหว่าง แพะกับวัว เป็นสัตว์ที่มีเฉพาะในภูฏานเท่านั้น ถือเป็นสัตว์ประจำชาติของภูฏาน (National Animal of Bhutan)ชม “ทิมพู ซอง” Thimpu Dzong หรือชื่อทางการว่า “ตาชิโช ซอง”(Tashicho Dzong) ซึ่งเป็นป้อมปราการขนาดใหญ่ ในปัจจุบันแบ่งเป็นพระตำหนักฤดูร้อน ในสมเด็จพระสังฆราชภูฏาน พระอารามหลวง สำนักพระราชวัง ทำเนียบรัฐบาล ห้องประชุมรัฐสภาแห่งชาติ โดยแบ่งเป็นห้องต่าๆ กว่า 100 ห้อง แต่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าชมเฉพาะท้องพระโรงใหญ่ ซึ่งประดับภาพจิตรกรรมผาผนัง และผ้าพระบทที่เล่าเรื่องราวในพุทธศาสนาสายวัชรยาน โดยเฉพาะตำนานแห่ง “พระปัทมสัมภวะ” หรือ “พระปทุมสมภพ” (แปลว่า ผู้กำเนิดจากดอกบัว) ภาคหนึ่งของพระพุทธเจ้าที่ชาวภูฏานนับถือเป็นอาจารย์ใหญ่ ผู้นำศาสนาพุทธนิกายวัชรยานตันตระมาเผยแผ่ในดินแดนนี้ เมื่อกว่า 2,000 ปีก่อน เรียกขานในภาษาทิเบตว่า “กูรู” จากนั้นเชิญท่านร่วมทำบุญในแบบภูฏานพร้อมทั้งรับศีลรับพรจากพรสงฆ์ระดับรินโปเช ซึ่งเชื่อว่ามีการกลับชาติมาเกิดหลายครั้งของภูฏาน
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร ของโรงแรม
แล้วนำทุกท่านเข้าสู่ที่พัก โรงแรม Hotel Ro Chog Pel หรือเทียบเท่า


วันที่สอง (2) ทิมพู –ปูนาคา
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
หลังอาหารเช้า ออกเดินทางราว 45 นาทีสู่ “โดชูลาพาส ”
( Dochula Pass) ระหว่าทางแวะถ่ายรูป ซิมโทกา ซอง จากนั้นออกเดินทางต่อไปยัง “โดชูลาพาส ” ( Dochula Pass) หรือช่องเขาศิลาที่มีระดับความสูง 3,145 เมตร ซึ่งมีสถูป “ดรุค วังเกล” (Druk Wangyel Chorten) หรือสถูปแห่งความเป็นสิริมงคลและ สันติสุขของแผ่นดิน 108 องค์ ซึ่งสร้างขึ้นมาเพื่อ ถวายพระโพธิสัตว์ของชาววัชรยาน 108 องค์ โดยสมเด็จพระราชินี อะชิ ดอร์จิ วังโม นำท่านชมวิว ยอดเขาซึ่งสูงกว่า 7,000 เมตร หลากหลายยอด และชม ยอดเขาโต๊ะซึ่งมียอดแบนราวกับโต๊ะ และนำท่านจิบชากาแฟเพื่อชมบรรยากาศอันสวยงาม ณ จุดชมวิวบนเขา จากนั้นเดินทางต่อ สู่วัดชิมิ
เที่ยง รับประทานอาหารอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร Chimi Café
นำท่าน ชมวิว Chimi Lhakhang หรือวัดแห่งการเกิด ซึ่งชาวภูฏานเชื่อว่าคู่รักใดไม่มีลูกให้มาขอพรที่วัดนี้แล้วจะสมหวังสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 15 โดย ท่านลามะ Drukpa Kuenley
(ท่านที่มีความประสงค์ที่จะเดินไปนมัสการวัด ชิมิ จะมีไกด์พาไปถึงที่วัด ใช้เวลาเดินประมาณ ½ ชั่วโมง ต่อเที่ยว ) จากนั้นเดินทางต่อ สู่เมือง ปูนาคา (Punakha) ที่ระดับความสูง 1,300 เมตร (ต่ำกว่าทิมพูราว 1,000 เมตร)จึงมีสภาพอากาศอบอุ่นกว่าทิมพู กษัตริย์ภูฏานและ สมเด็จพระสังฆราชจะทรง เสด็จแปรพระราชฐานในฤดูหนาว(ช่วงเดือนพ.ย.- เม.ย.) ปูนาคาจึงเป็น “เมืองหลวงฤดูหนาว” (Winter Capital) ในขณะที่ทิมพูเป็น “ เมืองหลวงฤดูร้อน ”และเป็นเมืองหลวงอย่างเป็นทางการ จากนั้นนำท่านชม “ปูนาคา ซอง” (Punakha Dzong) ที่มีตำนานว่า “กูรู รินโปเช” หรือ “พระปทุมสมภพ” ทรงมีพุทธทำนายว่า จะมีบุรุษนาม “นัมเกล” มาสร้างป้อมปราการ หรือ “ซอง” บริเวณด้านหน้าเขา รูปงวงช้างแห่งนี้ ซึ่งคำทำนายเป็นจริง เมื่อท่านซับดรุง งาวัง นัมเกล ประมุขฝ่ายอาณาจักรและ ศาสนจักรสร้าง “ปูนาคา ซอง” เป็นที่ประทับเมื่อราว 350 ปีก่อน(ก่อนไปสร้าง “ตาชิโช” ซองที่ทิมพู ) “ปูนาคา ซอง” โดดเด่นณ จุดบรรจบลำน้ำโม (โม=ผู้หญิง) กับลำน้ำ โป (โป=ชาย)รวมกันเป็นแม่น้ำ ปูนาซัง ทั้งนี้ “ปูนาคา ซอง” ถือเป็น “ซอง” ที่สำคัญที่สุดของภูฏาน เพราะเป็นสถานที่เก็บ พระอัฐิ ของท่านซับดรุง งาวัง นัมเกล และ ยังเป็นสถานที่ ซึ่งพระเจ้าอุกเยน วังชุก ได้กระทำพิธีบรมราชาภิเษกขึ้นเป็นปฐมกษัตริย์แห่งภูฏาน เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2450 ( ต่อมาจึงกำหนดให้ทุกวันที่ 17 ธ.ค. เป็นวันชาติภูฏาน ) “ปูนาคา ซอง” เป็นซองขนาดใหญ่มาก นอกจากมีพระตำหนักมีศาลาว่าการของ เมืองแล้ว ยังมีโบสถ์ วิหาร ประดิษฐานในซองนี้ถึง 21 แห่ง มีภิกษุสามเณรจำพรรษากว่า 6,000 รูป แม้จะเคยเกิดไฟไหม้ถึง 6 ครั้ง น้ำท่วม และแผ่นดินไหว อย่างละครั้ง แต่ยังคงความสง่างามตราบจนวันนี้
นำท่านทาน ชา กาแฟ ของว่าง และชมบรรยากาศริมแม่น้ำ ปูนาซังชู
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร ของโรงแรม
แล้วนำทุกท่านเข้าสู่ที่พัก โรงแรม Hotel Damchen หรือเทียบเท่า


วันที่สาม (3) ปูนาคา – ทิมพู - พาโร
08.00 น. รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางกลับสู่เมืองทิมพู ระหว่างทางแวะพัก ทาน ชา กาแฟ ที่ โดชูลาพาส ถึงเมือง ทิมพู ระหว่าทางชม ซิมโทกา ซอง ซึ่งเป็นซองที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศ นอกจากนี้ยังเป็นที่สอนภาษา “ซองคา” ซึ่งเป็นภาษาประจำชาติ
เที่ยง รับประทานอาหารอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารสุโขทัย
ทางบริษัทได้จัดเตรียมชุด “ คีรา” และ “โค” ชุดประจำชาติของภูฏาน ให้ท่านได้สวมใส่เที่ยวในเมืองทิมพู นำท่านสู่จุดชมวิวพร้อมนมัสการพระพุทธรูปองค์ที่ใหญ่ที่สุดในภูฏานที่ Kuenselphodrang หรือ Big Buddha ที่สร้างอยู่ในทำเลที่เรียกได้ว่าฮวงจุ้ยดีที่สุดของภูฏานชม โรงเรียนสอนงานศิลปะ (The School of Arts and Crafts or the Painting School) ซึ่งท่านจะได้เห็นเด็กนักเรียนชายที่รักการเรียนทางด้านศิลป์กำลังประดิษฐ์งานศิลปะแขนงต่างๆ เช่นการแกะสลักไม้ การปั้นพระพุทธรูปปูนปั้น การวาดภาพพระบฏ หรือภาพทังก้า (ยกเว้นช่วงปิดเทอมและวันหยุดราชการ) ชม Memorial Chorten หรือมหาสถูปที่พระเจ้าจิกมี ดอร์จี วังชุก ซึ่งเป็นพระชนกของกษัตริย์องค์ปัจจุบัน (พระเจ้า จิกมี ซิงเย วังชุก) พระองค์เป็นกษัตริย์องค์ที่3 ที่ปกครองภูฏาน ในช่วงปีค.ศ.1952 – 1972 และทรงได้รับพระฉายาว่า “พระบิดาแห่งภูฏานยุคใหม่” (King of Merdernization) มีประสงค์จะสร้างเพื่อเป็นการถวายเป็นพุทธบูชา แทนสัญลักษณ์ กาย วาจาและใจ ของพุทธศาสนา แต่ท่านได้เสียชีวิตลงเสียก่อน สมเด็จพระราชินีจึงได้ดำเนินการสร้างต่อจนแล้ว (หากตรงกับวันเสาร์-อาทิตย์ นำท่านชม ตลาดนัดพื้นเมือง Weekend Market) ได้เวลาสมควรนำท่านเดินทางกลับเมืองพาโร
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร ของโรงแรม
แล้วนำทุกท่านเข้าสู่ที่พัก
โรงแรม Hotel Olathang หรือ Tashi Namgey Resort and Spa - Paro หรือเทียบเท่า


วันที่สี่ (4) พาโร
08.00 น. รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
หลังอาหารเช้า นำท่านชมวัดตั๊กซัง หรือวัดถ้ำเสือ ซึ่งเป็นวัดที่อยู่บนหน้าผา ถ้าเดินขึ้นต้องใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง เป็นวัดสำคัญของภูฏาน คนที่นี่ทุกคนอย่างน้อยต้องขึ้นไปให้ได้อย่างน้อยครั้งหนึ่งในชีวิต เป็นสถานที่ๆ กูรู รินโปเช ได้ขี่นางเสือ ขึ้นไปและได้นั่งสมาธิในถ้ำ จึงได้ชื่อว่าวัดถ้ำเสือหรือรังเสือ ท่านที่มีความประสงค์จะไม่เดินขึ้นไปถึงวัดตั้กซังกรุณาแจ้งล่วงหน้า เพราะต้องขึ้นแต่เช้า
เที่ยง
พิเศษ รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่ “วัดคิชู (Kyichu Temple)” วัดเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของภูฏาน ตามประวัติว่าสร้างตั้งแต่ราวพุทธศตวรรษที่ 12 หรือราว 1,300 ปีมาแล้ว ตั้งแต่สมัยที่ภูฏานยังเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของทิเบต กษัตริย์ซองเซนกัม ซึ่งชาวทิเบตยกย่องว่า เป็นผู้อัญเชิญศาสนาพุทธสายวัชรยานตันตระมาประดิษฐานในทิเบต โปรดสร้างวัด 108 แห่ง เพื่อตอกอวัยวะ 108 จุด ของยักษ์ตนหนึ่ง ซึ่งนอนแผ่ทับเทือกเขาหิมาลัยไว้ หมายจะให้สัจธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าเผยแผ่ไปถึง โดยจุดที่สร้างวัดคิขุที่เมืองพาโรเป็นเท้าซ้ายของยักษ์ (อีกวัดหนึ่งในภูฏานอยู่ที่เมืองบุมทัง สร้างตรงเข่าซ้ายของยักษ์) ชมวิหารเก่าแก่ตั้งแต่สมัยกษัตริย์ ซองเซน กัมปุ ซึ่งปูพื้นด้วยไม้แผ่นใหญ่ ตรงบริเวณเบื้องหน้าพระปฏิประธานมีรอยบุ๋มลึก เนื่องจากมีผู้แสวงบุญมายืนและก้มลงกราบพระแบบ “อัษฎางค-ประดิษฐ์” (ร่างกายแตะพื้น 8 จุด) ซ้ำ ๆ กันเป็นเวลานานนับพันปี จากนั้นให้ท่านชมวิวและถ่ายรูป ยอดเขาจูโมฮารี ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในภูฏาน 7,340 ( จูโมฮารีจะเห็นได้เฉพาะในหน้าหนาว ) หากมีเวลาเหลือ นำชม วัดดุงเช (Dungtse Lhakhang) หรือ วิหารมืด ท่านจะได้ชมภาพวาดทางพระพุทธศาสนา อายุกว่า 100 ปี แต่ยังคงสีสันสดใส ซึ่ง ภายในไม่มีไฟฟ้าส่องสว่างจากนั้น
นำชมระบำหน้ากาก ซึ่งเป็นการเต้นรำทางศาสนา และ ชมการเต้นรำพื้นเมืองซึ่งรวบรวมมาจากทั่วประเทศ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร ของโรงแรม
โรงแรม Hotel Olathang หรือ Tashi Namgey Resort and Spa - Paro หรือเทียบเท่า


วันที่ห้า (5) พาโร – กรุงเทพฯ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
หลังอาหารเช้าอิสระตามอัธยาศัย
07.30 น. เดินทางสู่ท่าอากาศยานเมืองพาโร
10.50 น. ออกเดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ ด้วยสายการบินดรุกแอร์ เที่ยวบินที่ KB140
16.15 น. ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ


  เงื่อนไข :

อัตราค่าบริการ
ออกเดินทาง
28 ธ.ค.56 -1 ม.ค. 57 // 29 ธ.ค.56-2 ม.ค. 57 ราคา 55,555 บาท
31 ม.ค.-4 ก.พ. 57 // 12-16 , 14-18, 19-23 ก.พ. 57 ราคา 55,555 บาท
พักเดี่ยวเพิ่ม/ท่าน 7,900 บาท


แสดงความเป็นเจ้าของบทความ

คนเข้าดู : 1962 โหวต : 594
Google Map



ส่งLink นี้ให้เพื่อถ้าส่งหลายคนให้ใช้เครื่องหมาย , คั่น
Email :

จาก :

Script Comment


ที่เที่ยว *(จำนวนคนเข้าดู)
ที่เที่ยว
   พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติภูฏาน  (1817)
   ParoDzong  (1895)
   TamchoeMonastery  (1861)
   ปูนาคาซอง  (2102)
ร้านอาหาร
   FolkHeritageMuseumRestaurant  (2054)
ที่พัก
ของฝาก
เทศกาล
 
บริษัท ข้อมูลนักท่องเที่ยว ออนไลน์ จำกัด
เกี่ยวกับเรา | นโยบายความเป็นส่วนตัว | การใช้เวปไซต์
ไปไหนดี.com. All Rights Reserved.(Support Browser Google Chrome & FireFox)