สมัครสมาชิก   |   เข้าสู่ระบบ
index


ไปเที่ยว

แสดงบทความทั้งหมด
ไปแบบผจญภัย
ทะเล
ไปแบบครอบครัว
ศิลปะและวัฒนธรรม
ไปกันเป็นคู่(โรแมนติก)
ไปต่างประเทศ
5 ร้านอาหารยอดนิยม
ร้านปะการัง-บางแสน ร้านปะการัง บางแสน
ริมทะเล บรรยากาศดียามเย็น อาหารอร่อยและสด มีที่จอดรถ...
ไส้กรอกหมูวุ้นเส้นบางลำภู ไส้กรอกหมูวุ้นเส้นบางลำภู
ไส้กรอกอีสาน ไส้หมูบดผสมวุ้นเส้น ใช้เครื่องอย่างดี...
พรชัยขนมปัง พรชัยขนมปัง
ร้านขนมปัง ที่มีเมนูหลากหลาย ตั้งอยู่ที่ตลาดยอด พระนคร เมนูเ...
โกทิ-หัวหิน โกทิ หัวหิน
ร้านเก่าแก่คู่ อ.หัวหิน มากว่า 50 ปี ตรงข้ามตลาดโต้รุ่งหัวหิ...
อาม้า-เบเกอรี่ อาม้า เบเกอรี่
จำหน่ายขนมปังไส้ทุกชนิด เค้ก และคุกกี้ต่างๆ รับสั่งทำเค้ก อา...
5 บทความยอดนิยม
ถนนกับการท่องเที่ยว ถนนกับการท่องเที่ยว
ประโยชน์แห่งความสุขของการท่องเที่ยว ไม่ได้มีแค่ ที่จุดหมายปล...
โดย: nongview
ท่องเที่ยว-ทั่วไทย ท่องเที่ยว ทั่วไทย
ท่องเที่ยว ทั่วไทย ชายหาด ทะเล ป่าเขา น้ำตก อุทยานแห่งชาติ ถ...
โดย: nongview
จุดชมวิวทั่วไทย จุดชมวิวทั่วไทย
รวมภาพจุดชมวิวทั่วไทย...
โดย: nongview
เที่ยวเกาะเสม็ด เที่ยวเกาะเสม็ด
เกาะเสม็ดเป็นเกาะที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพ หาดทรายนี่ขาวสะอาด...
โดย: thejuk
หิ่งห้อย หิ่งห้อย
แมลงมีแสงที่ก้น แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศน์มี 4 ระย...
โดย: nongview
ไปไหนดี
ไปไหนดี    >   ศิลปะและวัฒนธรรม    >   ป้อมอัคราAgraFort   >   
เจ้าของบทความ gplace    Share
ป้อมอัคราAgraFort    ขื่อ : ป้อมอัคราAgraFort

   

   ที่ตั้ง : Rakabganj, อัครา, อุตรประเทศ อินเดีย 282003

   URL : http://gplace.com/ป้อมอัครา-agra-fort

   ประเภท :

  จุดเด่น :

อนุสรณ์สถาน เป็น มรโดกโลก อยู่ห่าง ทัชมาฮาลเพียง 2.5 กม.


  รายละเอียด :

ป้อมอัครา ป้อมปราการขนาดใหญ่ หรือเรียกได้ว่าเป็นเมืองขนาดย่อมๆ ที่ห้อมล้อมด้วยป้อมปราการอันใหญ่โต สร้างขึ้นด้วยอิฐ โดยราชบุตรแห่งวงศ์ศิกวะ (Sikarwar) โดยหลักฐานแรกที่พบนั้นย้อนกลับไปในปีค.ศ. 1080 จากการยึดครองของกองทัพของวงศ์กัสนาวิท (Ghaznavide) ต่อมาสุลต่านแห่งเดลี องค์ที่ 1 "สิกันดร โลดิ" (Sikandar Lodi) ได้ย้ายมาประทับและปกครองแคว้นที่ป้อมแห่งนี้แทนกรุงเดลี และเปรียบอัคราดั่งเมืองหลวงแห่งที่สอง


พระองค์สิ้นพระชนม์ลงในปีค.ศ. 1517 โดยมีรัชทายาท คือ อิบราฮิม โลดี (Ibrahim Lodi) เป็นผู้ครองนครต่อ โดยยังประทับอยู่ที่ป้อมนี้เป็นเวลาถึง 9 ปีจนกระทั่งสิ้นพระชนม์ในยุทธการแห่งปณิปัต (Battle of Panipat) ในรัชสมัยของพระองค์ ได้มีการก่อสร้างพระราชวังภายในป้อมหลายแห่ง รวมทั้งบ่อน้ำต่างๆ และมัสยิดด้วย


พระเจ้าเหมจันทร์วิกรมทิตย์ ซึ่งตีอัคราสำเร็จในปีค.ศ. 1553 และอีกครั้งหนึ่งในปีค.ศ. 1556 ต่อกองทัพของสมเด็จพระจักรพรรดิอักบัร ภายหลังจากยุทธการแห่งปณิปัตในปีค.ศ. 1526 กองทัพโมกุลได้ยึดครองป้อมอัคราและยึดครองสมบัติอันมหาศาล รวมถึงเพชรที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งต่อมารู้จักกันในนามว่า "โกห์-อิ-นูร์" (Koh-i-Noor) สมเด็จพระจักรพรรดิบาบูร์ พำนักอยู่ในพระราชวังอิบราฮิม และสร้างขั้นบันไดลงไปในบ่อน้ำ หรือเรียกว่า "เบาลี" (Baoli) ต่อมาสมเด็จพระจักรพรรดิหุมายุน ได้ประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกภายในป้อมแห่งนี้ในปีค.ศ. 1530 และต่อมาได้ทรงพ่ายแพ้แก่เชอร์ชาห์สุรี (Sher Shah Suri) ในปีค.ศ. 1540 ป้อมอัคราจึงตกเป็นของเชอร์ชาห์สุรีจนกระทั่งปีค.ศ. 1555 เมื่อสมเด็จพระจักรพรรดิหุมายุนได้ยกทัพกลับมาตีป้อมคืนได้สำเร็จ ต่อมาได้ทรงพ่ายแพ้แก่กองทัพของกษัตริย์ฮินดู พระนามว่า พระเจ้าเหมจันทร์วิกรมทิตย์ (Hem Chandra Vikramaditya) ซึ่งมีชัยเหนือกองทัพของสมเด็จพระจักรพรรดิหุมายุน ภายใต้การนำของแม่ทัพอิซกานดาร์ คาน อุซเบ็ก (Iskandar Khan Uzbek) และยึดอัคราได้สำเร็จ ซึ่งนำไปสู่การมีชัยเหนือเดลีต่อจักรวรรดิโมกุลต่อมา ในที่สุดพระเจ้าเหมจันทร์วิกรมทิตย์ ได้พ่ายแพ้แก่กองทัพของสมเด็จพระจักรพรรดิอักบัรในยุทธการแห่งปณิปัตครั้งที่สองในปีค.ศ. 1556 แล้วทรงแต่งตั้งเดลี เป็นเมืองหลวงของจักรวรรดิโมกุล ก่อนที่จะเสด็จนิวัติกลับอัคราในปีค.ศ. 1558


นักประวัติศาสตร์ส่วนพระองค์ อับดุล ฟาซัล (Abdul Fazal) ได้จดบันทึกว่าบริเวณสถานที่แห่งนี้เป็นที่ตั้งของป้อมปราการที่สร้างจากอิฐ ซึ่งเรียกกันว่า "บาดัลการห์" (Badalgarh) ซึ่งอยู่ในสภาพชำรุดทรุดโทรม พระองค์จึงได้บูรณะซ่อมแซมขึ้นใหม่โดยใช้หินทรายสีแดงที่ขุดได้จากเขตบาโรลี ในราชสถาน โดยทรงมอบหมายให้สถาปนิกออกแบบใหม่ตั้งแต่รากฐานขึ้นมาโดยใช้อิฐเป็นโครงสร้างด้านใน และปิดด้านนอกด้วยหินทรายสีแดง ด้วยแรงงานกว่า 8,000 คนซึ่งถูกเกณฑ์มาสร้างป้อมแห่งนี้ ป้อมอัคราจึงใช้เวลาถึง 8 ปี และเสร็จสมบูณ์ในปีค.ศ. 1573


จนกระทั่งถึงในรัชสมัยของพระราชนัดดาของสมเด็จพระจักรพรรดิอักบัร ได้แก่ สมเด็จพระจักรพรรดิชาห์ชะฮัน ซึ่งเป็นผู้ที่ทำให้ป้อมอัครานั้นมีรูปร่างที่เห็นในปัจจุบัน โดยทรงโปรดให้สร้างอนุสรณ์สถานให้แก่พระมเหสีของพระองค์ คือพระนางมัมทัส มาฮาล ซึ่งรู้จักกันดีในชื่อว่า "ทัชมาฮาล" ซึ่งทำจากหินอ่อนสีขาว ซึ่งเป็นพระราชนิยมในสมัยนั้น โดยอาคารต่างๆมักจะสร้างด้วยหินอ่อนสีขาว ตกแต่งด้วยทอง และอัญมณีหลากสี พระองค์ยังทรงให้ทำลายอาคารภายในป้อมบางแห่งทิ้ง เพื่อสร้างอาคารแบบใหม่ตามแบบพระราชนิยมอีกด้วย ต่อมาในปลายรัชสมัยของพระองค์ ได้ถูกจับให้สละราชสมบัติและคุมขังไว้โดยพระโอรสของพระองค์ (ต่อมาคือ สมเด็จพระจักรพรรดิออรังเซพ) ตามตำนานเล่าว่าพระองค์เสด็จสวรรคตในพระตำหนักมูซัมมัน เบิร์จ (Muasamman Burj) บนหอคอยแปดเหลี่ยมที่มีระเบียงทำจากหินอ่อน โดยสามารถมองเห็นทัชมาฮาล


ป้อมอัครายังเป็นสถานที่ของสงครามในเหตุการณ์กบฏอินเดียค.ศ. 1857 ซึ่งนำไปสู่การสิ้นสุดการปกครองของอินเดียโดยบริษัท บริติช อีสต์ อินเดีย (British East India Company) และนำไปสู่การปกครองโดยขึ้นตรงกับสหราชอาณาจักร ซึ่งกินเวลายาวนานกว่าศตวรรษ


เครดิตข้อมูล วิกิพีเดีย


  เงื่อนไข :

แสดงความเป็นเจ้าของบทความ

คนเข้าดู : 1667 โหวต : 594
Google Map



ส่งLink นี้ให้เพื่อถ้าส่งหลายคนให้ใช้เครื่องหมาย , คั่น
Email :

จาก :

Script Comment


ที่เที่ยว *(จำนวนคนเข้าดู)
ที่เที่ยว
   บ้านอนาถบิณฑิกเศรษฐี  (1308)
   สถูปองคุลิมาล  (1513)
   ท่าน้ำแม่น้ำคงคาพาราณสี  (1298)
   วัดไทยเชตวันมหาวิหารอินเดีย  (1653)
   พระพุทธรูปองค์ใหญ่สารนาถ  (1744)
   วัดไทยนวราชรัตนาราม960  (1779)
   วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์  (1903)
   วัดสิทธารถราชมณเฑียร  (1770)
   วัดเชตวันมหาวิหาร  (1781)
   สถูปปรินิพพานกุสินารา  (1738)
   มกุฏพันธนเจดีย์กุสินารา  (1567)
   ทัชมาฮาล  (1467)
   ธรรมเมกขสถูป  (1809)
   ป้อมอัคราAgraFort  (1667)
   พิพิธภัณฑ์สารนาถ  (1632)
ร้านอาหาร
ที่พัก
ของฝาก
เทศกาล
 
บริษัท ข้อมูลนักท่องเที่ยว ออนไลน์ จำกัด
เกี่ยวกับเรา | นโยบายความเป็นส่วนตัว | การใช้เวปไซต์
ไปไหนดี.com. All Rights Reserved.(Support Browser Google Chrome & FireFox)